SUM 40 เรื่องเล่าของโลกหลังความตาย

"ไม่มีโลกหลังความตายสำหรับพวกเรา ร่างกายแค่ย่อยสลายลงเมื่อสิ้นลม มวลประชาจุลชีพที่อาศัยอยู่ในร่างกายเราก็ไหลหลากไปยังที่ที่ดีกว่า นี่อาจทำให้คุณคิดว่าพระเจ้าไม่มีอยู่จริง ผิดถนัด..."
(หน้า 93, Microbe - SUM, David Eagleman)

"ซัม (SUM)"

ผู้เขียน: David Engleman
ผู้แปล: ณัฐกานต์ อมาตยกุล
สนพ. ใจใจbooks
พิมพ์ครั้งแรก, สิงหาคม 2558

          เกิด แก่ เจ็บ แล้วก็ตาย คือสัจธรรมของชีวิตที่เราทุกคนน่าจะรู้กันดีอยู่แล้ว ใน 4 อย่างนี้สิ่งที่ลึกลับและน่ากลัวที่สุดสำหรับหลาย ๆ คนรวมทั้งตัวเราเองด้วยก็เห็นจะเป็น "ความตาย" เนี่ยล่ะมั้ง เรากลัวตายเพราะเราไม่รู้ว่าต้องเจอกับอะไร ตายแล้วไปไหน? เจ็บหรือเปล่า? มันจะมาในรูปแบบไหน? และเมื่อไร? ตายไปแล้วเราจะได้ขึ้นสวรรค์ หรือต้องตกนรกกันล่ะ? จากประสบการณ์ที่ผ่านมา (แน่นอนว่าไม่ได้หมายถึงว่าเราเคยตายนะ 55) เมื่อความตายของคนใกล้ชิดมาถึง มันมักเป็นเวลาที่เราไม่ทันตั้งตัว ไม่ได้เตรียมใจ ปุบปับก็ต้องลาจากกันตลอดกาลเสียแล้ว ซึ่งมันทำใจยากนะ เว้นเสียแต่เราจะเรียนรู้และเข้าใจสัจธรรมชีวิตมากพอจนทำใจตั้งรับได้เร็ว เห็นเป็นเรื่องธรรมดาได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นความตายก็คงไม่น่ากลัวเท่าไรนัก (มั้ง) แต่ถ้าเรารู้ล่วงหน้า หรือมีใครสักคนมาบอก มาเล่าให้เราฟังได้ล่ะ ว่าโลกหลังความตายเป็นอย่างไร หรือกำหนดได้ว่าเราจะตายตอนไหน แบบนั้นจะดีหรือเปล่า? (ถ้ามาแบบผี ๆ นี่เราว่าคงไม่ดีเท่าไรเนาะ)

          "ซัม (SUM)" เรื่องเล่าแสนสั้น 40 เรื่องในโลกหลังความตายที่ให้เราคิดต่อยอดได้อีกไกล แต่ละเรื่องก็แปลกดี คือเหมือนจะต่อเนื่องกันแต่ก็ไม่ บางประเด็นอ่านแล้วก็นึกว่า เอ นี่มันหลักธรรมของศาสนาคริสต์หรือเปล่า หรือว่าผู้เขียนกำลังตั้งคำถามต่อศรัทธาในศาสนาคริสต์ของผู้คนในปัจจุบัน อย่างที่ให้พระเจ้าอธิบายเหตุผลของการที่ไม่ลงมาอยู่ร่วมกับมนุษย์บนโลกในตอน 'distance' หน้า 86 ว่า เดิมที่พระเจ้าก็เคยอยู่บนโลก แถมมีบ้านอยู่หลายแห่ง แต่จู่ ๆ ก็เกิดเหตุบางอย่างทำให้อยู่ไม่ได้อีกต่อไป "บ้าน" ของพระเจ้าถูกทำลาย "แต่นั่นก็ทำให้ข้ารับรู้ว่าความศรัทธานับถือที่ผู้คนเคยมีต่อข้ากำลังเสื่อมลง" พอมาอ่านทวนอีกทีตอนที่กำลังเขียน (พิมพ์) อยู่นี่ก็เริ่มสงสัยว่าบ้านของพระเจ้าของผู้เขียนนั้นเป็นไปได้ไหมว่า จะหมายถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นมากมายในโลกทุกวันนี้? นอกจากนี้ก็มีทั้งส่วนที่เป็น sci-fi และ fantasy เผลอ ๆ จะมีแทรกปรัชญา ซึ่งถ้าเป็น fantasy นี่เราพอเข้าถึง นอกเหนือจากนั้นคือกลวงเปล่ามากสมองเนี่ย เพราะงั้นถึงได้บอกไว้ตอนต้นว่าไม่มั่นใจที่จะเขียนบันทึกนี้เท่าไร

          สรุปคืออ่านแล้วเห็นว่าแปลกดี แต่ไม่ได้ประทับใจมาก ในแต่ละเรื่อง เราจะได้เห็นชีวิตหลังความตายหลาย ๆ แบบ ซึ่งล้วนแล้วแต่น่าสนใจ เก๋อ่ะ คือถ้าตายแล้วได้ไปอยู่ในที่แบบนี้ ก็ขอตายมันตอนนี้เลยแล้วกัน พระเจ้าของคุณ David Eagleman ท่านทุ่มเทกับการสร้างโลกเพื่อเหล่าคนตายมาก ๆ เป็นพระเจ้าเวอร์ชั่นเน็ตไอดอลอ่ะ ขอติ่ง นอกจากนี้ ในบางเรื่องคนอ่านจะได้เห็นว่าแม้แต่พระเจ้าก็ทุกข์เป็น!

Comments

Popular posts from this blog

[Spoiler Alert] เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) สปอยล์แหลกตามคำขอของน้อง

เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) หนังสือดีๆ อีกเล่มที่อยากแนะนำให้อ่าน

ลำนำรักเทพสวรรค์ ภาค หนึ่งคำมั่น สัญญานิรันดร์ (Promise Me a Forever)