ชายหนุ่มหลุมข้าง ๆ - เรื่องราวความรักของแม่สาวสีเบจ กับหนุ่มบ้านป่าที่พบรักกันในสุสาน!

"ผมไม่เชื่อในความรัก ถึงแม้ผมจะเคยได้สัมผัส"

- เบนนี่

(Katarina Mazetti, ชายหนุ่มหลุมข้าง ๆ

(Grabben i graven bredvid), สนพ. กำมะหยี่, น. 202)

ภาพจาก gammemagie.com

"ชายหนุ่มหลุมข้าง ๆ (Grabben i graven bredvid)"

ผู้เขียน: Katarina Mazetti
ผู้แปล: ธนิดา ปาณิกวงษ์ เปอเล่
สนพ. กำมะหยี่, พิมพ์ครั้งที่ 1, ธันวาคม 2555

          บางครั้งความรักก็จู่โจมเราโดยที่ไม่ทันตั้งตัว และจากไปในเวลาที่ไม่ได้เตรียมใจ เรื่องราวความรักของเบนนี่ และเดซิเร่ใน ชายหนุ่มหลุมข้าง ๆ ก็เป็นแบบนั้น พวกเขาพบกันที่สุสาน ต่างคนต่างไปเยี่ยมหลุมศพของคนที่ตน (เคย) รัก ทั้งสองเขม่นกันอยู่เงียบ ๆ ต่างคนต่างไม่ถูกชะตาอีกฝ่าย แต่แล้วราวกับมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เมื่อรอยยิ้มแห่งวันพักร้อนปะทะเข้ากับรอยยิ้มอบอุ่นพิมพ์ใจในวันหนึ่ง ทั้งคู่กลับตกหลุมรักกันและกัน

          น่ารัก และสนุกดี แทนที่จะตกหลุมรักกับหนุ่มข้างบ้าน หรือผู้ชายข้างห้องเหมือนนิยายรักโรแมนติกทั่วไป Katarina Mazetti กลับกำหนดให้พระนางพบกันที่สุสาน ฝ่ายหนึ่งไปเยี่ยมหลุมศพสามี อีกฝ่ายไปเยี่ยมหลุมศพพ่อแม่ ซึ่งบังเอิญมาอยู่ข้าง ๆ กัน เป็นการตกหลุมรักที่โรแมนติกปนตลก ท่ามกลางบรรยากาศซึมเซาของสุสาน ประหลาดดีแท้!

          เรื่องราวถูกเล่าสลับกันระหว่างด้านเซริเร่และเบนนี่ เราจะได้เห็นความต่อเนื่องของเหตุการณ์ผ่านมุมมองและความคิดของทั้งสองคน ความแตกต่างของสังคม ความคิด และวัฒนธรรมของคนเมืองอย่างเดซิเร่ และคนชนบทอย่างเบนนี่กลายมาเป็นอุปสรรคสำคัญในความรักของทั้งคู่ เมื่อตระหนักถึงความต่าง และเริ่มมีความขัดแย้ง ทั้งสองเลือกที่จะหลีกเลี่ยงและระมัดระวังหัวข้อที่จะทำให้ทะเลาะกัน แทนการพูดคุยหรือปรับความเข้าใจ ต่างฝ่ายต่างมีจุดยืน และปรารถนาให้อีกฝ่ายเสียสละทำอะไรสักอย่างเพื่อก้าวข้ามความต่างมาอยู่ในฝั่งของตัว และนั่นทำให้ความสัมพันธ์เดินทางมาถึงจุดวิกฤต

          การเล่าเรื่องแบบให้สลับกันเล่านี้ทำให้เรามองเห็นปัญหาของตัวละครชัดมากขึ้น เราจะเห็นใจและเข้าใจทั้งคู่พอ ๆ กัน บ่อยครั้งที่ความคิดของทั้งคู่เป็นไปคนละทาง เข้าใจกันคนละอย่าง ต่างฝ่ายต่างคาดหวังและรอคอยให้อีกฝ่ายทำอะไรเพื่อตัวเอง เบนนี่อยากได้ศรีภรรยาที่ช่วยงานในฟาร์มของเขาได้และใช้ชีวิตอยู่ด้วยการในชนบท เดซิเร่อยากให้เบนนี่หันไปทำอย่างอื่นแทนการทำฟาร์มและย้ายมาอยู่ใกล้เมือง แต่ไม่มีใครพูดออกมาตรง ๆ หรือหารือจุดที่จะเจอกันตรงกลาง

          ปัญหาของเดซิเร่และเบนนี่นั้นมีให้พบเห็นได้ในชีวิตจริง ช่วงเริ่มต้นของความรักนั้นสวยงาม และอะไร ๆ ก็ดูจะเป็นไปได้ ปัญหาทุกอย่างล้วนจัดการได้ แต่เมื่อพ้นช่วงโปรโมชั่นไปแล้ว ได้รู้จักกันมากขึ้น รักกันมากขึ้น ความวาบหวามหวั่นไหวในหัวใจเริ่มจาง สิ่งที่เพิ่มขึ้นคือความคาดหวัง และความต้องการให้ความสัมพันธ์ดำเนินไปเหมือนวันแรกที่เริ่มรักกัน ให้คนรักเป็นไปในแบบที่เราต้องการ แต่เราต่างก็รู้ว่าไม่มีอะไรเป็นดังหวัง หรือได้ดั่งใจไปหมดทุกอย่าง เพราะในบางครั้งตัวเราเองก็ยังไม่ได้ดั่งใจตัวเองเลยนี่นะ นอกจากนี้ ในโลกนี้ไม่มีอะไร หรือใครที่จะไม่เปลี่ยนแปลง และหากให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเสียสละอยู่เพียงฝ่ายเดียวโดยไม่คำนึงถึงความรู้สึก หรือชีวิตของอีกฝ่ายเลย นั่นคงไม่อาจเรียกว่าความรัก แต่อาจเรียกได้อีกอย่างว่าความเห็นแก่ตัวหรือเปล่า?

          ชอบเรื่องนี้ตรงที่มันอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงของชีวิต ไม่โรแมนติกเพ้อฝันแบบเจ้าหญิงเจ้าชายในนิทานมากจนเกินไป เหมือนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ใส่น้ำกำลังดี เครื่องถึง รสชาติครบรสแซ่บถูกใจ แต่...เรื่องราวของเดซิเร่ และเบนนี่ยังไม่จบลงในเล่มนี้หรอกนะ เรื่องนี้มีภาคต่อ คือ สุ(ข)สานของครอบครัว (Familjegraven - The Brain of the Family) ซึ่งยังเดาไม่ถูกว่าจะจบแบบไหน happy ending หรือว่าจะจบแบบเฉือดเฉือนหัวใจคนอ่าน ถ้าสนใจ ชายหนุ่มหลุมข้าง ๆ อย่าลืมหา สุ(ข)สานของครอบครัว ติดมือมาด้วย เผื่ออ่านต่อกันได้เลย ไม่งั้นอาจประสบภาวะค้างคาเอาได้