เรื่องราวของสิ่งที่ไม่เคยดำรงอยู่...แต่ยังดำรงอยู่ - หญิงสาวผู้ช่วยชีวิตราชาสวีเดน (The Girl Who Saved the King of Sweden)
"ไม่รู้ดอกหรือว่าความโง่งั่งนั้นไร้พรมแดนไม่จำกัดเชื้อชาติ"
- Jonas Jonasson, หญิงสาวผู้ช่วยชีวิตราชาสวีเดน
(The Girl Who Saved the King of Sweden), น. 35
"หญิงสาวผู้ช่วยชีวิตราชาสวีเดน (The Girl Who Saved the King of Sweden)"
ผู้เขียน: Jonas Jonasson
ผู้แปล: นพดล เวชสวัสดิ์
สนพ. กำมะหยี่, พิมพ์ครั้งแรก, มีนาคม 2558
เรื่องนี้เป็นผลงานอีกเรื่องของ Jonas Jonasson เจ้าของเดียวกับ ชายร้อยปีผู้ปีนออกทางหน้าต่าง แล้วหายตัวไป (The 100 Year-Old-Man Who Climbed Out the Window and Disappeared) ซึ่งผู้เขียนเขากล่าวถึง "หญิงสาวผู้ช่วยชีวิตราชาสวีเดน" ไว้ว่า "เหมือนกัน เหมือนแต่แตกต่าง" (เปรียบเทียบกับชายร้อยปีฯ) สิ่งแรกที่เหมือนกันเห็นเด่นชัดสุดก็ความยาวของชื่อเรื่องเนี่ยล่ะค่ะ ยาวจริงไรจริง ถึงแม้หญิงสาวฯ นี้จะสั้นกว่าครึ่งหนึ่งก็เถอะนะ แต่ก็ยังยาวอยู่ดี พิมพ์กันเหนื่อย
หญิงสาวผู้ช่วยชีวิตราชาสวีเดน หรือ The Girl Who Saved the King of Sweden นั้นพล็อตจะคล้ายกับเรื่องชายร้อยปีฯ อยู่หลายจุด โดยมีฉากหลังเกี่ยวพันกับประวัติศาสตร์ช่วงที่ท่านเนลสัน แมนเดลาถูกคุมขังจนกระทั่งได้รับอิสรภาพ เรื่องเริ่มที่สำนักงานอุจจาระในโซเวโต ประเทศแอฟริกา บ้านเกิดของนอมเบโก เด็กสาวอายุ 14 ที่จับพลัดจับผลูได้เลื่อนตำแหน่งจากคนขนอุจจาระไปเป็นผู้จัดการสำนักงานอุจจาระแทนคนเก่าที่ถูกไล่ออก นอมเบโกอ่านหนังสือไม่ออก เขียนไม่ได้ แต่เธอนับเลขเก่งมาก สติปัญญานับว่าเข้าขั้นอัจฉริยะเลยล่ะ นอมเบโกสามารถรับมือกับผู้ช่วยสุขาภิบาลคนใหม่ ผู้มีใบปริญญารับประกันความรู้ และแก่กว่าเธอถึงเก้าปีได้สบายๆ ต่อมาเธอได้เรียนเขียนอ่านกับคนงานขนอุจจาระคนหนึ่งชื่อธาโบ จนในที่สุดก็อ่านออกเขียนได้ นอกจากหนังสือที่มีเต็มบ้านพักธาโบแล้ว นอมเบโกยังนึกเดาได้อีกว่าธาโบมีบางสิ่งแอบซ่อนไว้ บางสิ่งที่มีค่าซึ่งเธอจะได้ครอบครองมันในภายหลัง เมื่อนอมเบโกอายุ 15 เธอถูกไล่ออกจากงาน หลังจากนั้นเธอตัดสินใจออกเดินทางจากโซเวโตไปยังห้องสมุดในเมืองหลวง แต่โชคร้ายถูกวิศวกรระเบิดปรมาณู นายเองเยิลเบร็ก ฟาน เดอร์ วิสเธเซ็นขับรถทับเสียก่อนจะถึงจุดหมาย แต่หลังจากฟื้นขึ้นมาเธอกลับถูกศาลตัดสินให้ทำงานชดใช้ค่าเสียหายให้กับวิสเธเซ็นในหน่วยงานวิจัยระเบิดปรมาณูเป็นเวลา 7 ปี! แล้วกงล้อแห่งโชคชะตาก็เริ่มหมุนไปในทิศทางของมัน...
อ่านจบแล้วแบบว่า "หยำเหยอะ!" คือสนุกและเบาสมองดี แต่ไม่เท่าเรื่องชายร้อยปีฯ มันมีช่วงที่เรื่องเดินเนือยๆ อยู่ในภาคสองตอนที่นอมเบโกติดอยู่ในหน่วยงานวิจัยระเบิดปรมาณู แต่สีสันของมุกตลก และการเสียดสีประชดประชันของผู้เขียนยังคงเป็นจุดเด่น อ่านได้เพลิดเพลินเจริญใจมาก ชอบจุดที่ผู้เขียนนำเสนอภาพผู้(ที่ดูจะ)มีความรู้ มีการศึกษาออกมาในรูปแบบของคนโง่ หรือใช้การไม่ค่อยได้ เพราะเป็นไปได้ว่าบางครั้งคนที่น่าจะฉลาดปราดเปรื่องก็โง่เง่าได้อย่างเหลือเชื่อ ส่วนคนที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะคิดหรือทำอะไรได้ กลับฉลาดและทำงานได้ดีกว่า อย่างเช่น ผู้ช่วยหน่วยงานสุขาภิบาลคนใหม่นั่นปะไร ผู้เขียนระบุชัดเจน เน้นย้ำด้วยซ้ำว่าเขานั้นแก่กว่านอมเบโก และจบการศึกษาระดับปริญญา เข้ารับราชการในตำแหน่งสูง แต่ในเรื่องของการทำงานแล้วกลับสู้นอมเบโก เด็กสาวอายุ 14 ที่ไร้การศึกษาไม่ได้ จะมาหาเรื่องเขาสุดท้ายก็เงิบกลับไป หรืออย่างฉากในศาลตอนพิจารณาคดีที่วิสเธเซ็นขับรถชนนอมเบโก ก็นำเสนอภาพความไม่เสมอภาคในสังคมออกมาในรูปแบบแดกดันสุดฮา วิสเธเซ็นนั้นเมาแล้วขับแท้ๆ ผลตรวจวัดแอลกอฮอล์เกินระดับเห็นๆ กันอยู่ แต่เพียงเพราะเขาเป็นคนขาว มีหน้าที่การงานใหญ่โต ศาลกลับไม่ลงโทษเขาในเรื่องใดๆ ส่วนนอมเบโกเป็นชาวแอฟริกันผิวดำ เดินบนทางเท้าดีๆ กลับถูกตัดสินว่าผิด และต้องทำงานชดเชยให้กับตาขี้เมาที่ขับรถชนตัวเองซะอย่างนั้น แต่นอมเบโกก็ยังสร้างวีรกรรมแย้งผู้พิพากษาจนได้รับการลดหย่อนเวลาที่ต้องทำงานไถ่โทษลงไปได้อีกหน่อย (ผู้พิพากษาแกคำนวณผิด) และหากไม่เจ็บปวดแผลจากการถูกชนมากขนาดนั้น คิดว่าเหตุการณ์ในศาลน่าจะสนุกไม่หยอก เพราะผู้อ่านจะสัมผัสได้ตั้งแต่ต้นๆ เรื่องเลยว่านังหนูนอมเบโกเนี่ยมันแสบใช่เล่น แสบหน้าตายเสียด้วย!
"เธอวิงวอนให้เปลี่ยนความคิดเสียใหม่
โดยการปักกรรไกรเข้าที่ต้นขาไอ้หมอนั่น"
Jonas Jonasson, หญิงสาวผู้ช่วยชีวิตราชาสวีเดน
(The Girl Who Saved the King of Sweden), น. 20
เมื่อเข้าสู่ภาคสาม เรื่องจะเริ่มสนุกและวุ่นวายขึ้นเรื่อยๆ และแม้ว่าการผจญภัยของนอมเบโกจะไม่โลดโผนเท่ากับของปู่อัลลันในชายร้อยปีฯ แต่บุคคลสำคัญ และฉากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ผู้เขียนนำมายำ เอ้ย มาผูกโยงเข้ากับเรื่องก็น่าสนใจ และทำได้ดีไม่แพ้กัน ในหญิงสาวผู้ช่วยชีวิตราชาสวีเดนนี้ ฉากของเรื่องจะเกิดแค่ในแอฟริกา กับสวีเดน เราจะยังได้พบกับบุคคลสำคัญระดับประเทศ อย่างเติ้งเสี่ยวผิง, หูจิ่นเทา, ประธานาธิบดีเรแกน ฯลฯ และครั้งนี้ยังเกี่ยวพันไปถึงกษัตริย์สวีเดน! นอกจากนี้ยังมีตัวละครประเภทกล้าบ้าบิ่น โง่เง่าไร้สมอง และอาภัพอับโชคมาสร้างสีสรรค์ให้เรื่องราวสนุกยิ่งขึ้น ชายเสียสติผู้เกลียดชังราชวงศ์สวีเดนและอยากจะกำจัดให้สิ้นซากด้วยเหตุผลสุดเพี้ยน ฝาแฝดที่มีตัวตนแค่เพียงหนึ่ง หญิงสาวเจ้าโทสะที่ขัดหูขัดตากับทุกสิ่ง เคาท์เตสตกยาก สายลับอิสราเอลผู้เสียรู้ให้หญิงทำความสะอาดผิวดำ ระเบิดปรมาณูเจ้าปัญหา ฯลฯ เรื่องราวชุลมุนชุลเกพลิกผันได้ทุกเวลา
จริงๆ จดโน้ตไว้เยอะกว่านี้มาก แต่ถ้าพิมพ์ลงมาทั้งหมดนี่ก็เท่ากับเล่าเรื่องทั้งหมดออกมาเลยทีเดียว แค่ที่ร่ายมาทั้งหมดนี้ก็อาจโดนประนามได้แล้วว่าสปอยล์ เอาเป็นว่าถ้าคุณเคยอ่านชายร้อยปีฯ ก็ไม่ควรพลาดเล่มนี้ หรือถ้าไม่เคยอ่านผลงานเรื่องไหนของ Jonas Jonasson มาก่อนเลย ก็ขอบังอาจบอกว่าไม่ควรพลาดสองเรื่องนี้นะ หวังว่าทางกำมะหยี่จะนำผลงานเล่มอื่นของผู้เขียนมาแปลให้อ่านกันอีก เริ่มติดใจแล้วล่ะ
"ภัยคุกคามใหญ่หลวง มิใช่ระเบิดปรมาณู
หากแต่เป็นคนหน้าโง่ สมองกลวงโบกอาวุธในมือไปมา"
Jonas Jonasson, หญิงสาวผู้ช่วยชีวิตราชาสวีเดน
(The Girl Who Saved the King of Sweden), น. 356
Comments
Post a Comment