Lipe First Time EP3 - Last Day on Koh Lipe
"สุขทุกข์ก็เหมือนกันนะครับ ถ้าเข้าใจว่ามันของธรรมดาคู่กัน
สุขก็ไม่หลงระเริง ทุกข์ก็ไม่คร่ำครวญ
เวลาสุขหมดไปทุกข์มา เราจะไม่ทุกข์ซ้ำซ้อน"
- พิทยากร ลีลาภัทร์ (@aston_ed)
นอนชิลในเปลญวนตรงระเบียงบ้านพัก
ตอนนี้จะเล่าถึงวันที่ 3 ของทริปหลีเป๊ะ
วันนี้วันสุดท้ายแล้วสำหรับการดำน้ำ และการพักอยู่ที่เกาะ
ไม่มีงานเลี้ยงใด ไม่มีวินเลิกรา
สุภาพบุรุษแก้แค้น 10 ปีก็ไม่สาย ... เดี๋ยวนะ อันนี้รู้สึกจะไม่เกี่ยว!
สำหรับ 2 ตอนก่อนหน้า ย้อนอ่านกันได้ตาม links ด้านล่างนี้นะคะ
วิวด้านหน้าบ้านพัก ถ่ายจากระเบียงค่ะ
เข้าตอน 3 กันเลยดีกว่า วันนี้ก็ยังใช้บริการคุณลุงวิทเจ้าเดิม
แต่ที่มีเพิ่มเติม คือขอให้ลุงช่วยหาน้ำแข็งบรรทุกเรือมาให้ด้วย
ไว้ใส่น้ำอัดลม น้ำเปล่าที่หอบหิ้วมากินกันแก้กระหายค่ะ ร้อนๆ กินน้ำเย็นๆ สดชื่นนนน
ข้าวกล่องสำหรับมื้อเที่ยงสั่งจากที่ Mountain Resort ที่พักของเราเลย
ถ้าจำไม่ผิดราคากล่องละ 100 บาท ถูกกว่าสั่งจากร้านที่ถนนคนเดิน
เพราะที่นี่เขาทำข้าวใส่กล่อง Super Lock อย่างดี ไม่ใช้โฟมค่ะ
กลับจากดำน้ำเราก็เอากล่องมาคืนที่พัก ปลื้มมากอ่ะ รักษ์โลก รักษ์สิ่งแวดล้อมดี ^^
มื้อเช้าที่ Mountain Resort อร่อยดี โดยเฉพาะข้าวต้ม หมดไวมาก
วันแรกข้าวต้มไก่ วันที่สองนี่ข้าวต้มทะเล ข้าพเจ้าซดไปหลายถ้วย ฟินนน
วิวหน้าหาด Mountain Resort
แผนดำน้ำวันนี้จะเป็นดำเกาะรอบในค่ะ ใช้เวลาเดินทางไปดำแต่ละจุดสั้นกว่าเมื่อวาน
จุดแรกที่ไปดำร่องน้ำอะไรสักอย่าง สวยมากกกกกก มีปะการัง ดอกไม้ทะเลหลากสีหลายสันเลยค่ะ
มีฝูงปลาตัวสีเงินวิบวับเป็นฝูงเลย ฝูงใหญ่มว๊ากกก ว่ายปรู๊ดปร๊าดไปทางเดียวกันเวลาหลบคน
เหมือนในสารคดีเลยอ่ะ ประทับใจมากๆ
จุดอื่นๆ ที่ลุงพาไปดำก็สวยไม่แพ้กันค่ะ เสียดายถ้ามีกล้องใต้น้ำ คงได้เก็บภาพมาฝาก
จุดแวะพักกินข้าวเที่ยง เล่นน้ำ ดำน้ำ เกาะอาดัง (มั้ง)
จุดนี้เสียค่าเข้าเกาะคนละ 40 บาท มีห้องน้ำ และที่ล้างตัวบนเกาะด้วย
(เรื่องค่าเข้าธรรมเนียมเข้าเกาะนี่ ลืมแจ้งในตอนที่ 1 ว่า พอนั่งเฟอร์รี่ถึงโป๊ะหลีเป๊ะ
จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าเกาะคนละ 20 บาทด้วยนะคะ เพิ่งเข้าไปแก้ไขข้อมูลเพิ่มวันนี้)
มองจากหาด จะเห็นเหมือนช่องทางเข้า มีสองเกาะทำหน้าที่เป็นประตู
วันนี้แดดร้อนทีเดียว ทา sun block ตลอดเว กลัวดำ 55
ชอบสีเขียวของน้ำทะเลมาก เอามาลงให้ดูอีก
เกาะหินงาม เกาะนี้ไม่มีทราย มีแต่ก้อนหิน
ที่จุดนี้นักท่องเที่ยวนิยมเรียงหินแบบในรูปค่ะ แล้วอธิษฐาน
ความสูง/จำนวนหินที่จะเรียงก็แล้วแต่กำหนดกันเอาเอง
ถ้าอยากให้พรสัมฤทธิ์ผลก็ต้องเรียงให้ได้ตามนั้น
อ้อ มีเรื่องเล่าว่าบางคนเก็บหินจากที่เกาะนี้ไปเป็นที่ระลึก
แต่สุดท้ายก็ต้องดิ้นรนหาทางเอามาคืนที่
*โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน*
หินเยอะ และร้อนมาก ลองถอดรองเท้าเดิน ใส่กลับแทบไม่ทัน TT^TT
จริงๆ มีจุดแวะพักเล่นน้ำ ดำน้ำตื้นอีกที่ แต่จุดนั้นเราขี้เกียจลงละ
นั่งเล่นบนเรือ ถ่ายรูป บางคนก็งีบรอคนอื่นๆ ที่ลงไปดำน้ำ
เหนื่อยค่ะ แอบอู้นิดนึง
จบทริปดำน้ำ กลับมาถึง Mountain Resort ก็ชำระค่าเสียหายให้ลุงวิท แล้วบอกลา
(ค่าใช้จ่ายสำหรับเรือไปดำน้ำอ่านได้ในตอน 2 ค่ะ)
ตกเย็นออกมาถ่ายรูปเล่น ดูพระอาทิตย์ตกค่ะ
ทรายที่ชายหาดหน้า Mountain Resort นี่หยาบกว่าฝั่งบันดาหยาค่ะ
มีพวกเศษเปลือกหอย ก้อนกรวด ไม่ค่อยขาว
พระอาทิตย์ดวงเบ้อเร่อเห้อ
จะตกลงน้ำแล้ว
สำหรับมื้อเย็นวันนี้ พลพรรคขอจัด seafood อีกสักรอบ หลังจากผิดหวังจากร้านรักษ์เลมา
วันนี้เราตัดสินใจกินที่รีสอร์ตเลย เพราะข้าวกล่องที่สั่งไปกินตอนกลางวันอร่อย
มื้อเช้าก็โอเค บวกกับไม่กล้าเสี่ยงไปสุ่มหาร้านใหม่กัน
แล้วก็ไม่ผิดหวังค่ะ อาหารที่ Mountain Resort อร่อยทีเดียว
ให้ 8 เต็ม 10 เลย ปลานึ่งมะนาวนี่แซ่บดี ราคาก็ไม่แพงด้วย
สั่งกัน 8 อย่าง ข้าวเปล่าน่าจะ 2 โถ
รวมแล้ว 2,305 บาทเอง
(น้ำเราเอาจากที่เราเตรียมเสบียงกันไปเอง สั่งแต่น้ำแข็ง ก็ประหยัดค่าน้ำไปได้อีกเยอะค่ะ)
หมดวันแล้ว เตรียมบอกลาเกาะหลีเป๊ะ
วันรุ่งขึ้นต้องเดินทางออกจากเกาะไปขึ้นเรือเฟอร์รี่กลับเข้าหาดใหญ่แต่เช้า
บล็อกตอนต่อไปจะพาเที่ยวหาด พากิน ตะลุยหาดใหญ่แบบชิลๆ ค่ะ
ตอนนี้ขอจบแค่นี้
-สวัสดี-
Comments
Post a Comment