(500) Days of Summer (2009) - โปรดอย่าคิดว่านี่คือหนังรัก...
"โปรดอย่าคิดว่านี่คือหนังรัก..."
"เราไม่ควรตีความไปต่างๆ นานากับเหตุการณ์ธรรมดาๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก"
เมื่อชายคนหนึ่งที่เชื่อในรักแท้และพรหมลิขิต
ตกหลุมรักหญิงสาวที่ไม่เชื่อทั้งสองอย่าง และไม่อยากมีแฟน
ความคาดหวัง และความจริงเป็นสิ่งที่สวนทาง ไม่มีวันมาบรรจบกัน (?)
ในความสัมพันธ์ของคนเรามักมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่คาดหวังมากกว่าอีกฝ่ายเสมอ และบ่อยครั้งความคาดหวังนั้นก็ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง ทอม ชายหนุ่มธรรมดา ชีวิตสามัญ ตกหลุมรักซัมเมอร์สาวน้อยที่ดูธรรมดา แต่มีเสน่ห์ไม่ธรรมดา เธอไม่เชื่อในความรัก ไม่เชื่อในพรหมลิขิต ไม่อยากมีแฟน ความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็นไปในแบบ "ค่อยเป็นค่อยไป" อย่างที่ทอมเข้าใจ ไม่ระบุสถานะ หรือไม่ต้องมี "ป้าย" บอก แต่ยิ่งนานวันทอมก็ยิ่งรักซัมเมอร์ แน่นอน...ในใจลึกๆ เขารู้สึกว่าทั้งสองเป็นมากกว่าเพื่อน เป็นอะไรมากกว่านั้น แต่ก็พูดออกมาชัดๆ ไม่ได้ว่าเป็นแฟน...
"กิ๊ก" น่าจะเป็นคำที่เหมาะกับสถานะความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง (ถ้าหากคุณต้องการคำเรียกที่ชัดเจนน่ะนะ แต่...เราเป็นใครล่ะถึงมีสิทธิไปตัดสิน?) หนังเดินเรื่องตัดสลับช่วงวันแรกๆ ที่ทั้งคู่พบกัน เริ่มต้นความสัมพันธ์กัน สลับกับช่วงวันท้ายๆ บรรยากาศน่ารักสดใส ตัดสลับความอึมครึม เศร้าหมอง เมื่อทอมต้องการความชัดเจน และเริ่มอยากพัฒนาความสัมพันธ์ แต่สาวน้อยซัมเมอร์ตัดสินใจจะยุติทุกอย่างลง
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เริ่มจากความปักใจเชื่อของทอม ว่าชีวิตของเขาจะไม่สมบูรณ์จนกว่าจะเจอคนที่ใช่ และเมื่อเจอซัมเมอร์ เขาก็ฟันธงทันทีว่าเธอคือคนนั้น "She's the one." ไม่เผื่อใจ ไม่มองใคร ซัมเมอร์เท่านั้น
"ฉันชอบเธอมาก" ซัมเมอร์บอกกับทอม แต่...บ่อยครั้งชอบก็ไม่ได้แปลว่าใช่ และยิ่งไม่ได้หมายความว่าจะรัก และเมื่อวันนึงสาวน้อยซัมเมอร์ได้พบกับเหตุการณ์ที่ทำให้ชีวิต และความเชื่อของเธอเปลี่ยนไป เธอยอมรับกับทอมว่า ที่เขาเคยพูดกับเธอเกี่ยวกับความรักและพรหมลิขิตนั้นเขาพูดถูก
เคยบอกกับคนๆ หนึ่งเมื่อนานมาแล้วว่า คนเราน่ะหวังได้ แต่อย่าคาดหวังว่ามันต้องเป็นอย่างที่หวัง อย่าไปคิดว่าคนนั้นต้องเป็นได้อย่างใจเราทุกอย่าง เพราะถ้าเขาไม่เป็นอย่างนั้น คนที่จะเจ็บปวดก็มีแต่เรา สุดท้ายเราจะไปโทษอีกฝ่ายว่าเป็นความผิดของเขา ทั้งที่จริงๆ แล้วเราเจ็บ...เพราะความคาดหวังของตัวเอง เพราะความคิดของตัวเราเอง "โปรดอย่าคิดไปเอง" วลีเด็ดจากโฆษณาวลีนี้น่าจะอธิบายย่อหน้านี้ได้ดีแบบกระชับนะ ก็เหมือนที่ผู้บรรยายในหนังบรรยายในตอนท้ายของหนังตามคำโปรยใต้รูปด้านบน "เราไม่ควรตีความไปต่างๆ นานากับเหตุการณ์ธรรมดาๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก (500 Days of Summer)"
ฉากที่ชอบที่สุดในหนังคือฉากที่ทอมเต้นในสวนสาธารณะ ในเช้าหลังจากคืนที่กุ๊กกิ๊กกับซัมเมอร์ครั้งแรก ให้อารมณ์โลกทั้งโลกสดใสดี โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิต เล่นได้ดีมาก น่ารักมาก
ทอมทำงานในบริษัททำการ์ดอวยพร วันๆ นึงเขาต้องคิดคำอวยพรสำหรับโอกาสต่างๆ (ทั้งๆ ที่จบสถาปนานิกมานะ) เขาทำงานได้ดี แต่เมื่อตกอยู่ในภาวะอกหัก เขาก็เริ่มหมดไฟ และวันนึงเขาประกาศในที่ประชุมว่า งานที่พวกเขาทำอยู่นั้นมันคืองานลวงโลก ผู้คนควรจะอวยพรออกมาเองจากใจ จากความคิดของตนเอง ไม่ใช่ใช้การ์ดที่ใครก็ไม่รู้คิดคำพูดให้ ฯลฯ (จำมาคร่าวๆ นะคะ อาจจะไม่เป๊ะตามหนัง) ดูฉากนี้แล้ว โฮ้โฺฮ ปรบมือให้ทอมดังๆ ในใจ มันโดนใจมาก เพราะปกติเวลาซื้อการ์ดอวยพรที่มีข้อความสำเร็จรูปส่งให้คนอื่น นั่นคือตอนที่สิ้นคิดแล้วจริงๆ ไม่รู้จะเขียนอะไร ไม่ก็กลัวจะเขียนภาษาอังกฤษแบบเสร่อๆ หรืออยากได้คำอวยพรใหม่ๆ ที่คิดเองไม่ได้
อีกฉากก็ที่หนังทำเป็นสองจอเปรียบเทียบ "Expectation" กับ "Reality" มันสื่อความรู้สึกของทอมได้ดีมากๆ หนังเรื่องนี้เป็นอีกหนังดีที่อยากแนะนำให้ดูค่ะ
การรักใครสักคน มันยากตรงที่ รักอย่างไรให้ "พอดี"
Comments
Post a Comment