เกมล่าชีวิต (The Hunger Games) อาจมีสปอยล์เล็กน้อย

"อำนาจเป็นสิ่งหอมหวานเสมอ ไม่มีใครรู้ว่าคนเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง"
- โพสต์บุ๊กส์


ชื่อเรื่อง: เกมล่าชีวิต (The Hunger Games)
ผู้เขียน: ซูซานน์ คอลลินซ์ (Suzanne Collins)


  • ผู้แปล: นรา สุภัคโรจน์
  • สนพ. โพสต์บุ๊กส์

     ตอนแรกไม่คิดจะซื้อชุดนี้มาอ่าน เพราะหนังสือที่มีอยู่นี่ก็อ่านไม่ทันแล้ว เลยกะว่าจะดูหนังอย่างเดียว แต่หลังจากไปดู Catching Fire มา ออกจากโรงปุ๊บ ตรงดิ่งไปคิโนะคุนิยะแล้วซื้อมาทีเดียวยกชุด 3 เล่ม เกมล่าชีวิต, ปีกแห่งไฟ, และม็อกกิ้งเจย์ เพราะอดรนทนไม่ได้อยากรู้เรื่องราวต่อจากนั้น พออ่านแล้วก็ติดค่ะ 3 เล่มอ่านจบภายใน 2 สัปดาห์ เพิ่งอ่านม็อกกิ้งเจย์จบเมื่อวันพ่อที่ผ่านมานี่เอง อ่านรวดเดียว วันเดียวจบ ฟินละ >w<

     ใครที่ดูหนัง หรืออ่านมาแล้วก็คงพอจะรู้แล้วว่านิยายไตรภาคเรื่องนี้ดราม่ามาก หนังภาคแรกดูแล้วเครียดเลย นั่นก็คืออีก 1 เหตุผลที่ตอนแรกไม่คิดจะซื้อหนังสือมาอ่าน แต่พอมาภาคสองหนังทำออกมาได้ดี สนุกทีเดียว เรื่องราวหลักๆ จะโฟกัสอยู่ที่น้องหนูแคตนิส เอฟเวอร์ดีน สาวน้อยผู้มากับไฟของเรา ผู้ซึ่งเต็มไปด้วยความคิดความอ่านประชดประชัน หวาดระแวง ลังเล (ไม่รู้มีใครอ่านแล้วรู้สึกรำคาญยัยนี่เหมือนเราหรือเปล่า บางครั้งก็อยากให้นางไหม้ไปกับไฟมากกว่าจะมากับไฟนะ 555) หลายตอนในหนังไม่เหมือนในหนังสือ อย่าง Catching Fire นี่เราชอบเวอร์ชั่นในหนังมากกว่าในหนังสือ แต่ก็แอบเสียดายฉากสวีทบางฉาก ประโยคหวานๆ บางประโยคที่ถูกตัดออกไป (อยากรู้ว่าใครสวีทกับใครหาหนังสือมาอ่านเอาเองนะ ฮี่ๆ ฟีลจิกหมอนรัวๆ อ่ะ >w<)

     เรื่องราวเข้มข้นเมื่อกบฏ (ในสายตาของประธานาธิบดีสโนว์ กับชาวแคปิตอล) ลุกฮือ เพราะทนแรงกดขี่ และความโหดร้ายของการส่งลูกหลานไป "ตาย" ในเกมล่าชีวิตมาตลอด 75 ปีไม่ไหว บวกกับแรงบันดาลใจที่ได้จากการเห็นแคตนิสเสียสละตนเอง อาสาเล่นเกมแทนพริมผู้เป็นน้องสาว กับแผนเบอร์รี่จากเกมครั้งที่ 74 ในภาคแรกซึ่งทำให้มีผู้พิชิตถึง 2 คน คือแคตนิส และพีต้า ถูกมองว่านั่นคือ "การกระด้างกระเดื่อง" "การแข็งข้อ" ต่อรัฐ และทำให้สโนว์มองว่าเธอเป็น "ภัยต่อแคปิตอล"

     แต่สำหรับชาวพาเนมแคตนิสคือตัวแทน คือสัญลักษณ์ของความหวัง และความหวังนั่นแหละที่สโนว์ "กลัว" มาในภาค 2 เมื่อผู้พิชิตจากเกมครั้งก่อนๆ ต้องกลับมาลงสนามอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ตามกฏพวกเขาควรได้อยู่อย่างสบายไปจนบั้นปลายชีวิต นั่นคงเป็นฟางเส้นสุดท้ายของชาวพาเนม และเป็นจุดเริ่มต้นของบางสิ่ง

     ในขณะที่หันหน้าสู้กับแคปิตอล แคตนิสกลับหันหนีปัญหารักสามเศร้าแบบเห็นแก่ตัวนะว่าไหม เราว่านะที่นางไม่เลือกใครสักทีเพราะลึกๆ ในใจนางรู้ว่าพวกเขาจะอยู่ตรงนั้น ซึ่งตรงนี้ทำให้เราจัดนางอยู่ประเภทเดียวกับยัยเบลล่า ในเรื่องทไวไลท์เลยล่ะ (ไม่รู้เราด่วนตัดสินไปเปล่านะ) นางโกรธเคืองแม่ที่หันหลังให้นางและน้องหลังจากพ่อตาย แต่ตัวนางเองก็หนีปัญหาไม่ต่างกัน และการที่นางไม่รู้ใจตัวเองสักที คลุมเครือตลอด นั่นยิ่งน่าหงุดหงิดเข้าไปใหญ่

    ตอนดูหนัง มีบางฉากที่คนในโรงขำ และดูตื่นเต้นสนุกไปกับเรื่องราว เราเกิดความรู้สึกแว่บขึ้นมาว่า คนดูอย่างเราก็ไม่ต่างอะไรกับชาวแคปิตอลนะ หรือเรานี่แหละชาวแคปิตอลเสียเอง ที่เฝ้าดูเด็กหนุ่มสาวเข้าห้ำหั่นฆ่ากันเพื่อความบันเทิง มีใจสงสาร เห็นใจ แต่ก็ถูกมอมเมาให้เสพความเพลิดเพลินจากเกมเรียลีิตี้ ฆ่าจริง เจ็บจริง เกมนี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้น ผู้เขียนกำลังล้อเล่นกับเราอยู่หรือเปล่า การปกครองที่ใช้ความกลัวของผู้คนมาเป็นเครื่องมือ ในระยะยาวมันจะส่งผลร้ายแรงสะท้อนกลับไปยังผู้กุมอำนาจขนาดไหน เมื่อถึงที่สุดแล้วผู้คนมองเห็นความหวังที่จะหลุดพ้นจากความกลัว

    การปฏิวัติคือหนทางเดียวที่พวกเขาจะหลุดพ้นจริงหรือ สมมติว่าล้มแคปิตอลได้ แล้วยังไงล่ะ หาผู้นำใหม่ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นจริงไหม และไม่เพียงจะต้องหาทางเอาชีวิตรอด และรักษาชีวิตบรรดาคนที่เธอรัก แคตนิสยังมีปัญหารักสามเศร้า เราสามคนอีก ระหว่างเกล กับพีต้า เธอจะเลือกใคร ใครคือคนที่จะได้หัวใจเธอไปครอง ที่สุดแล้วเธอจะตัดสินใจได้สักทีไหม ชะตาชีวิตชาวพาเนมในเขตการปกครองทั้ง 12 เขตจะเป็นอย่างไร ถ้าทนรอหนังไม่ไหว จัดหนังสือมาอ่านเสพความฟินก่อนเลยค่ะ เพราะได้ยินมาว่าภาค 3 จะแบ่งออกเป็น 2 parts แยกฉายในปี 2014 กับ 2015 ซะงั้น ไม่เข้าใจว่าจะแบ่งทำไม หนังสือก็ไม่ได้หนามากเหมือนทไวไลท์ หรือแฮร์รี่ พอตเตอร์ซะหน่อย =3=

    สุดท้ายนี้อยากจะบออกว่า ฉันรักพีต้า อร๊ายยย >3< 
     

Comments

Popular posts from this blog

[Spoiler Alert] เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) สปอยล์แหลกตามคำขอของน้อง

เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) หนังสือดีๆ อีกเล่มที่อยากแนะนำให้อ่าน

ลำนำรักเทพสวรรค์ ภาค หนึ่งคำมั่น สัญญานิรันดร์ (Promise Me a Forever)