Posts

Showing posts from 2013

Romeo & Juliet (2013) - โรมิโอ โอ้ โรมิโอววว

Image
"คาปูเล็ต, มอนตะคิว ความเกลียดชังให้อะไรพวกเจ้าบ้าง..." - เจ้าชายแห่งเวโรนา (Romeo & Juliet 2013) นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะดูถัดจาก Frozen ดูตย. แล้วชอบพระเอกมาก 555  ที่สำคัญ Ed Westwick เล่นด้วยอ่ะ อร๊ายยยยยย พลาดไม่ได้  แถมหนังยังได้คนเขียนบทจากซีรีส์อังกฤษเรื่องดัง Downton Abbey มาดัดแปลงเขียนบทให้ซะด้วย ภาคนี้ดูรู้เรื่องกว่าภาคที่ป๋าลีโอเล่นเยอะเลยค่ะ (Romeo & Juliet 1996) ภาษาพร่ำรำพันบ้าง  แต่เข้าใจง่ายและอ่านซับทันกว่าบทแบบกลอนในเวอร์ชั่นของป๋า  ในเวอร์ชั่น 2013 นี้ทั้งโรมิโอ และจูเลียตสวย หล่อ สมกันมาก  แต่พ่อเจ้าประคุณโรมิโอของเราออกจาะเป็นพ่อหนุ่มเพ้อไปหน่อยนะ  พี่แกเป็นนักรักพร่ำรำพัน เวิ่นพอตัวทีเดียวค่ะ 55 แต่แหมใจพี่แกโลเลอยู่เหมือนกันนะ ตอนแรกดูเหหมือนจะคลั่งรักแม่สาวโรซาไลด์ (ชื่อนี้เปล่าหว่า) อยู่ดีๆ เจอจูเลียตปุ๊บ ตกหลุมรักปั๊บ ซะงั้นอ่ะ แอบเบ้ปากใส่พี่แกเบาๆ  ตอนแกทำเป็นลืมว่าโรซาไลด์นี่ใครหรา แบบเจอจูเลียตละ คนนี้รักแท้  (น่าตบกะโหลกจริงๆ) พระนางเล่นดีค่ะ ชอบทั้งคู่ นางเอกเล่นได้สวยใสน่ารักน่าชั

Frozen (2013) อนิเมชั่นแบบมิวสิคอล

Image
"An act of true love will thaw a frozen heart." – Olaf (Frozen, 2013) เดือนธันวาคมนี้มีหนังน่าดูเข้าฉายหลายเรื่อง อย่างเมื่อวันพ่อที่ผ่านมา ก็มี 3 เรื่องน่าดูเข้าพร้อมๆ กัน คือ Frozen, Snowpiercer, และหนังที่สร้างจากบทประพันธ์อมตะของเชคส์เปียร์อย่าง Romeo & Juliet น่าดูน่าชมทั้ง 3 เรื่องเลย และตั้งใจไว้ว่าจะดูทั้ง 3 เรื่องให้ครบ >w< เริ่มที่ Frozen ก่อน เพราะสาขาที่ไปดูได้สะดวกนี่รอบเรื่องนี้น้อยเหลือเกิน  แล้วยิ่งใกล้วันเข้าฉายของหนังฟอร์มยักษ์อย่าง Hobbit 2 (12 ธันวา) ด้วยแล้ว  กลัวว่าเดี๋ยวรอบจะยิ่งโดนเบียดจนหลุดออกจากโรงไปซะก่อนจะทันได้ดู ดูจากตย. แล้ว รับประกันได้เลยว่า Frozen นี่ภาพสวยอลังแน่นอน แถมยังผู้สร้างชุดเดียวกับ Tangled หรือราพันเซลอีก เลยยิ่งทำให้อยากดูเข้าไปใหญ่ เพราะประทับใจกับ Tangled มากๆ ไปดูมาแล้วก็ไม่ผิดหวังเท่าไรนักค่ะสำหรับ Frozen (แต่แอบเสียดายเล็กน้อย เพราะไปไม่ทันดูการ์ตูนพิเศษก่อนเริ่มเรื่อง เป็นเรื่องของ Mickey และ Minny ค่ะ เดาเอาเองว่าน่าจะเพื่อฉลองครบ 100 ปีลุงวอลท์ ดิสนีย์มั้งนะ) หนังภาพสวยจริงๆ ถ้าดู 3D ก็คงตื่

เกมล่าชีวิต (The Hunger Games) อาจมีสปอยล์เล็กน้อย

Image
"อำนาจเป็นสิ่งหอมหวานเสมอ ไม่มีใครรู้ว่าคนเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง" - โพสต์บุ๊กส์ # ม็อกกิ้งเจย์ # TheHungerGames ชื่อเรื่อง: เกมล่าชีวิต (The Hunger Games) ผู้เขียน: ซูซานน์ คอลลินซ์ (Suzanne Collins) ผู้แปล: นรา สุภัคโรจน์ สนพ. โพสต์บุ๊กส์      ตอนแรกไม่คิดจะซื้อชุดนี้มาอ่าน เพราะหนังสือที่มีอยู่นี่ก็อ่านไม่ทันแล้ว เลยกะว่าจะดูหนังอย่างเดียว แต่หลังจากไปดู Catching Fire มา ออกจากโรงปุ๊บ ตรงดิ่งไปคิโนะคุนิยะแล้วซื้อมาทีเดียวยกชุด 3 เล่ม เกมล่าชีวิต, ปีกแห่งไฟ, และม็อกกิ้งเจย์ เพราะอดรนทนไม่ได้อยากรู้เรื่องราวต่อจากนั้น พออ่านแล้วก็ติดค่ะ 3 เล่มอ่านจบภายใน 2 สัปดาห์ เพิ่งอ่านม็อกกิ้งเจย์จบเมื่อวันพ่อที่ผ่านมานี่เอง อ่านรวดเดียว วันเดียวจบ ฟินละ >w<      ใครที่ดูหนัง หรืออ่านมาแล้วก็คงพอจะรู้แล้วว่านิยายไตรภาคเรื่องนี้ดราม่ามาก หนังภาคแรกดูแล้วเครียดเลย นั่นก็คืออีก 1 เหตุผลที่ตอนแรกไม่คิดจะซื้อหนังสือมาอ่าน แต่พอมาภาคสองหนังทำออกมาได้ดี สนุกทีเดียว เรื่องราวหลักๆ จะโฟกัสอยู่ที่น้องหนูแคตนิส เอฟเวอร์ดีน สาวน้อยผู้มากับไฟของเรา

FuFu Shabu สไตล์ไต้หวัน

Image
เมื่อวานฤกษ์งามยามดีศุกร์หรรษา ชะแว๊บไปชิมชาบูสไตล์ไต้หวันแถวคลองเตยมาค่ะ  สนนราคาก็ 499++ รายละเอียดเพิ่มเติมดูใน  https://www.facebook.com/fufushabu.tw น้ำซุปมีให้เลือกหลายแบบค่ะ แต่สูตรที่คนพาไปแนะนำว่าต้องลองคือ "น้ำซุปหมาล่า" หม่าล่า คือสมุนไพรจีนอย่างหนึ่งค่ะ รสชาติเผ็ดร้อน ถ้าแบบต้นตำหรับไต้หวันจริงๆ เห็นว่าจะเผ็ดจนปากชา (หม่า แปลว่าชา, ล่า แปลว่ารสเผ็ด รวมกันก็เผ็ดจนปากชาค่ะ ) ในรูปด้านซ้ายคือซุปหม่าล่า ส่วนด้านขวาข้าพเจ้าเลือกเอง ซุปต้มยำ อร่อยมากกกก ใครชอบทานรสจัดแนะนำเลยค่ะ เขาทำอร่อยดี พริกเผ็ดมาก >w< ซุปหม่าล่านี่พี่ที่ไปด้วยกันบอกว่าไม่ควรซดน้ำซุปนะคะ เพราะมันมากกกก ที่ไต้หวันนี่ไขมันจะเคลือบผิวน้ำซุปหมด มองไม่เห็นน้ำเลย สูตรที่ร้านฟู่ฟู่นี่ปรับรสชาติให้อ่อนลงมาเพื่อให้ถูกปากคนไทยค่ะ พี่เขาบอกว่าตอนมาครั้งแรกถึงกับต้องเรียกเจ้าของร้านมาถาม เพราะกินแล้วไม่เหมือนที่ไต้หวัน เจ้าของร้านเขาบอกว่าทำเผ็ดมากไม่ได้ เพราะคนไทยกินแล้วนึกว่าใส่ผงชูรส  (หม่าล่ากินแล้วปากจะชาค่ะ แต่ไม่มีอันตรายนะคะ) พวกของสดที่ร้านมีให้เลือกเยอะเลย

แวะกินส้มตำหลวงพระบาง บ้านส้มตำ สาทร

Image
"ส้มตำหลวงพระบาง หากินได้ที่นี่..." วันนี้พลพรรคยกพลกันไปกินส้มตำหลวงพระบาง แถวสาทร ที่ร้าน "บ้านส้มตำ"  พระเอกของเรา ส้มตำหลวงพระบาง พี่ที่พาไปบอกว่านี่เป็นเมนูแนะนำ แผ่นขาวๆ ที่ดูเหมือนเส้นใหญ่นั่นคือมะละกอค่ะ ตำใส่ปลาร้า (ถ้าไม่กินปลาร้าก็เลือกได้ค่ะว่าไม่ใส่)  มีกากหมูเคียง ร้านนี้ปกติเขาตำรสจัด ถ้าไม่กินเผ็ดก็ต้องระบุไปตอนเลือกเมนูนะคะ รสชาติพอใช้ได้ ออกเค็ม (พอดีสั่งเผ็ดน้อยไป เพราะมีบางคนกินเผ็ดมากไม่ได้) มันเก๋ตรงมะละกอที่เป็นแผ่นๆ เนี่ยล่ะค่ะ กรุบๆ ดี จานนี้จำไม่ได้ว่าตำอะไร (_ _") มะละกอร้านนี้เขาซอยเป็นเส้นหนาค่ะ ดูเหมือนกุ้ยช่ายขาวเนาะ เอ่อ... จำไม่ได้อีกแล้ว แบบว่าไม่ได้เป็นคนสั่ง เป็นตำเส้นหมี่ค่ะ อร่อยดี มะละกอกรุบกรอบ เส้นหมี่ดูดซึมน้ำส้มตำได้ดี ยำสะเดากุ้งสด น้ำยำแซ่บดีค่ะ คนชอบสะเดาไม่ควรพลาด แนะนำให้ลอง จานโปรดดด กุ้งแช่น้ำปลา กุ้งสด ตัวใหญ่ อวบอิ่ม น้ำจิ้มก็แซ่บอยู่ >3< ปลาทอดทานเล่น ทอดมันหัวปลี จานนี้เฉยๆ ลาบเห็ด อร่อยค่ะ >3< ไก่ทอด เมนูนี

Hokkaido Ramen Santouka at CTW

Image
ราเมงรสเด็ด จากเมืองฮกไกโด! วันนี้มีโอกาสแวะไปชิมราเมนที่ร้านซานโตวกะ (ไม่แน่ใจว่าออกเสียงถูกหรือเปล่านะคะ) พิกัดร้านอยู่ที่ CTW ชั้น 6 ฝั่ง Isetan ค่ะ เดินเลยร้านคิโนะคูนิยะไปหน่อย อยู่ซ้ายมือ (น่าจะประมาณร้านที่ 4) อร่อยดีค่ะ ราคากลางๆ อยู่ที่ 200 - 350 บาทโดยประมาณ ราเมงจะมีขนาดชามให้เลือก 3 ขนาด S (100 กว่าบาท), M (230 บาท), และ L (320 บาท) ราคาในวงเล็บนี่โดยประมาณนะคะ แล้วก็มีพวกของทานเล่นอย่าง เกี๊ยวซ่า หมูย่างเสริฟบนเตาถ่าน ฯลฯ มีแบบเป็นเซ็ต ชุดสุดคุ้ม (ชุดครอบครัวจะมีแถมของเล่นด้วยล่ะ) อ่อ มี service charge 10% ด้วยนะคะ ตอนนี้บัตรเครดิตซิตี้แบงค์รับส่วนลด 10% อยู่ค่ะ  (สรุปได้ลดค่าเซอร์วิซชาร์จไป ค่าอาหารจ่ายเต็ม ฮาาาาา) ชุดนี้อลังเว่อ ประมาณ 320 บาท คุ้มมาก (ราเมนเป็นซุปเต้าเจี้ยวรสเผ็ด ต้องเพิ่มอีก 10 บาท) ในถ้วยเป็นข้าวหน้าหมูชาชูมั้ง อร่อยดี หอมๆ ชามนี้ราเมนซุปเกลือ อร่อยมาก (ตอนแรกแอบกลัวว่าจะเค็มแบบเกลือมาเลยเหรอ 555) น้ำซุปข้นกลมกล่อม มีบ๊วยเค็มมาด้วย เส้นออกแข็งหน่อยไม่นิ่มมาก เป็นเส้นกลมเล็กกำลังดี หมูก็นุ่ม หยุ่น หนา ให้ 8.5 เต็ม 10

ตัวตน (L'identite)

Image
"ถ้าก่อนจะได้เจอกันสองต่อสอง เขาได้อยู่กับเธอขณะที่เธออยู่กั บคนอื่นๆ นานๆ เขาจะจำคนที่เขารักในตัวเธอได้ห รือเปล่า ถ้าเขาได้รู้จักเธอเฉพาะตอนที่เ ธอมีใบหน้าที่ใช้แสดงต่อเพื่อนร่ วมงาน เจ้านายของเธอ ลูกน้องของเธอ ใบหน้านั้นจะทำให้เขาดื่มด่ำและ ปลาบปลื้มหรือเปล่า ต่อคำถามเหล่านี้ เขาไม่มีคำตอบ"  - มิลาน คุนเดอรา  #ตัวตน   #L 'identite ชื่อเรื่อง: ตัวตน (L'identite) ผู้แต่ง: มิลาน คุนเดอรา (Milan Kundera) ผู้แปล: อธิชา มัญชุนากร กาบูล็อง สนพ. กำมะหยี่ (พิมพ์ครั้งที่ 1, 2555)      เคยได้ยิน หรือได้อ่านมาจากที่ไหนสักที่ว่า "ตัวตน" เป็นเพียงสิ่งที่คนเราสมมติขึ้น นั่นเป็นเพราะคนเราต้องการ "บทบาท" เพื่อที่จะมีจุดยืน มีสิ่งยึดเหนี่ยว ไม่ให้เคว้งคว้างกลวงเปล่า เพื่อให้สามารถพูดถึงตัวเองได้อย่างมีความหมาย เพื่อให้ตัวเองเป็นอะไรสักอย่างในสายตาของคนอื่นหรือเปล่า?      ในนิยายเล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวของคู่รักชองตาล และฌอง-มารฺค เมื่อฌอง-มารฺคเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนเก่าที่ป่วยหนักเจียนตาย ชองตาลตามไปด้วยและรอเขาที่โรงแรมขณะที่เขาแยกไ

Saving General Yang (2013) - สุภาพบุรุษตระกูลหยาง

Image
"บุตรชายทั้ง 7 จะจากไป เหลือเพียง 6 ที่กลับมา..."      Saving General Yang หรือสุภาพบุรุษตระกูลหยาง เวอร์ชั่นนี้เป็นเรื่องราวในรุ่นพ่อ คุณชายทั้ง 7 (ไม่มีสโนไวท์เป็นแขกรับเชิญนะ) จำต้องเดินทางไปสนามรบเพื่อช่วยพ่อที่ติดกลข้าศึกอยู่บนดอยหมาป่า เป็นภารกิจทำเพื่อแม่โดยแท้ (มิได้ทำเพื่อบ้านเมืองแบบเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนภาคอื่นๆ) เรื่องราวก็เป็นเหมือนที่หลายๆ คนคงรู้กันดีอยู่แล้วกับประวัติตระกูลหยาง ซึ่งนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์หลากหลายเวอร์ชั่น      สำหรับเวอร์ชั่นนี้พี่ 3 เท่มาก รับบทโดยไจ่ไจ๋ หรือ Vic F4 นั่นเอง (ก็พ่อหนุ่มหนวดที่ง้างคันธนูอย่างเท่ในโปสเตอร์นั่นแหละ ตอนแรกจำไม่ได้ว่าเป็นไจ๋ เสิร์ชดูรายชื่อนักแสดก่อนดูถึงรู้) ดูไปดูมาแบบนี่มันหยางซานหลาง หรือเลโกลัสจากเดอะลอร์ดออฟเดอะริงค์วะเฮ๊ย (แม้จะหล่อและลีลาไม่เทพเท่า แต่ไจ๋ก็ยังเท่อยู่มาก ไม่เคยเห็นออกแอคชั่นขนาดนี้ >w<)     รู้สึกว่าเวอร์ชั่นนี้จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จในฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่เท่าไร ทั้งๆ ที่นักแสดงนำแต่ละคนนี่ก็ดังๆ เด่นๆ ทั้งนั้น อย่างคำวิจารณ์ในเว็บผู้จัดการนี่ก็สับเละ

ณ ที่สิ้นสุดของบางสิ่ง (The Sense of an Ending)

Image
"ประวัติศาสตร์ไม่ใช่คำโกหกของผู้ชนะ ดังที่ผมเคยพูด... มันเป็นความทรงจำของผู้รอดชีวิตมากกว่า" - จูเลียน บาร์นส์ #ณที่สิ้นสุดของบางสิ่ง ชื่อเรื่อง: ณ ที่สิ้นสุดของบางสิ่ง (The Sense of an Ending) ผู้เขียน: จูเลียน บาร์นส์ ผู้แปล: โตมร ศุขปรีชา สนพ.: ไลต์เฮาส์ พับลิชชิ่ง พิมพ์ครั้งแรก 2556      หนังสือเล่มนี้ได้รับรางวัลเดอะ แมน บุ๊กเกอร์ไพรซ์ ประจำปี 2011 (รางวัลนี้มอบให้นักเขียนนวนิยายในสหราชอาณาจักร หมู่ประเทศเครือจักรภพและสาธารณรัฐไอร์แลนด์ อ่านเพิ่มเติมได้ที่  http://www.themanbookerprize.com/node/1  ) เห็นครั้งแรกในหน้าเพจของไลต์เฮาส์ พับบลิชชิ่งก่อนงานหนังสือตุลา '56 ที่ผ่านมา สะดุดตากับปกก่อนเป็นอันดับแรก ชื่อเรื่องอันดับถัดมาที่ต้องใจ คำโปรยโฆษณาของสนพ. ในเพจ  https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10151626473632190&set=a.10151626321222190.1073741833.175515022189&type=1&theater  ก็ยิ่งทำให้สนใจ และประการสุดท้ายสำคัญสุดที่ทำให้ตัดสินใจว่ายังไงก็ต้องซื้อ คือผู้แปล คุณโตมร ศุขปรีชา      หนังสือแบ่งออกเป็นสองภาค ภาคแรกเป็นเรื่องราวในช่ว

(500) Days of Summer (2009) - โปรดอย่าคิดว่านี่คือหนังรัก...

Image
"โปรดอย่าคิดว่านี่คือหนังรัก..." "เราไม่ควรตีความไปต่างๆ นานากับเหตุการณ์ธรรมดาๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก"  # 500DaysOfSummer เมื่อชายคนหนึ่งที่เชื่อในรักแท้และพรหมลิขิต  ตกหลุมรักหญิงสาวที่ไม่เชื่อทั้งสองอย่าง และไม่อยากมีแฟน ความคาดหวัง และความจริงเป็นสิ่งที่สวนทาง ไม่มีวันมาบรรจบกัน (?)      ในความสัมพันธ์ของคนเรามักมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่คาดหวังมากกว่าอีกฝ่ายเสมอ และบ่อยครั้งความคาดหวังนั้นก็ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง ทอม ชายหนุ่มธรรมดา ชีวิตสามัญ ตกหลุมรักซัมเมอร์สาวน้อยที่ดูธรรมดา แต่มีเสน่ห์ไม่ธรรมดา เธอไม่เชื่อในความรัก ไม่เชื่อในพรหมลิขิต ไม่อยากมีแฟน ความสัมพันธ์ของทั้งสองเป็นไปในแบบ "ค่อยเป็นค่อยไป" อย่างที่ทอมเข้าใจ ไม่ระบุสถานะ หรือไม่ต้องมี "ป้าย" บอก แต่ยิ่งนานวันทอมก็ยิ่งรักซัมเมอร์ แน่นอน...ในใจลึกๆ เขารู้สึกว่าทั้งสองเป็นมากกว่าเพื่อน เป็นอะไรมากกว่านั้น แต่ก็พูดออกมาชัดๆ ไม่ได้ว่าเป็นแฟน...      "กิ๊ก" น่าจะเป็นคำที่เหมาะกับสถานะความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง (ถ้าหากคุณต้องการคำเรียกที่ชัดเจนน่ะนะ แต่...เราเป็นใ

Seiryu Sushi ซูชิร้านอร่อยแถวสีลม (ศาลาแดง 1)

Image
"ครั้งหนึ่งในชีวิตกับ Seiryu Sushi" https://www.facebook.com/seiryusushi           มีเพื่อนแนะนำร้านนี้มาว่าอร่อยมาก ก็เลยชวนพลพรรคนักชิมอีกสามหน่อไปร่วมด้วยช่วยกันพิสูจน์มาเมื่อ 25/10/2013 Seiryu Sushi ร้านอยู่ตรงซอยศาลาแดง 1 แนะนำให้มา BTS หรือ MRT แล้วเดินไปร้าน เพราะแถวนั้นรถติดเอาเรื่อง แล้วก็โทรจองโต๊ะเผื่อไว้ด้วยก็ดีค่ะ ร้านเขาไม่ใหญ่มาก ลูกค้าเยอะทีเดียว (เบอร์โทร พิกัด และรายละเอียดอื่นดูเพิ่มเติมได้ในลิงค์เพจเฟซบุ๊คด้านบนนะคะ)           ซูชิเขาอร่อยสมคำร่ำลือค่ะ ปลาสดมาก ชิ้นอวบหนา แซลมอนเนี่ยะเรียกได้ว่าละมุนลิ้นละลายในปาก ไม่ละลายในมือ สนนราคาก็แพงอยู่ค่ะ แต่ก็คุ้มกับคุณภาพและรสชาติตวามอร่อย การบริการก็ใช้ได้ ซูชิจะขายเป็นคำ หรือเป็นเซ็ตค่ะ แล้วก็มี a-la-cart อย่างพวกข้าวหน้าปลาดิบเป็นชามๆ  อ่อ มีซาชิมิ กับขนมหวานด้วยค่ะ ราคาถูกสุดก็ซูชิปลาหมึกกล้วย 35 บาท ไล่เรียงไปจนถึงคำละเป็นร้อย (มีเซ็ตซูชิหน้าเนื้อ 4 คำหรือไงเนี่ยค่ะ 1,500 บาทด้วยนะ ช็อกเบาๆ (_ _") ยังไม่เคยกินซูชิเนื้อนะ เห็นราคาแล้วก็คิดว่าดีแล้วล่ะที่ไม่เคยกิน 5555) อันนี้ช

เต้น เต้น เต้นไปอย่าหยุด! "เริงระบำ แดนสนธยา" - ฮารูกิ มูราคามิ

Image
เรื่อง: เริงระบำแดนสนธยา (Dance, Dance, Dance) ผู้เขียน: Haruki Murakami ผู้แปล: นพดล เวชสวัสดิ์ สนพ. กำมะหยี่ พิมพ์ครั้งที่ 1: ก.ย. 2556 (จัดพิมพ์ครั้งก่อนหน้า มี.ค. 2547 สนพ. แม่ไก่ขยัน) "สรรพสิ่งเริ่มต้นจากการเล่าเรื่องตัวเอง นั่นเป็นก้าวแรก ไม่ว่าจะจริงหรือเท็จ  ผู้คนก็จะหยิบข้อความนั้นไปเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินพิพากษา" - ผม (หน้า 15, เริงระบำแดนสนธยา, ฮารุกิ มูราคามิ)           "เริงระบำแดนสนธยา (Dance Dance Dance)" เป็นเล่มต่อจากชุดไตรภาคมุสิก (สดับลมขับขาน - Hear the Wind Sing, พินบอล 1973 - Pinball, 1973, และแกะรอย แกะดาว - A Wild Sheep Chase) สนพ. กำมะหยี่เพิ่งนำมาตีพิมพ์ใหม่และวางขายในงานมหกรรมหนังสือที่เพิ่งผ่านมา เล่มนี้ข้าพเจ้าพรีออเดอร์มาจากทางเว็บ  http://readery.co/  พร้อมกับเล่ม TV People ที่เขียนถึงไปแล้วในบล็อกก่อนหน้า เริงระบำฯ นี่เพิ่งอ่านจบสดๆ ร้อนๆ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เอง (3 พ.ย.)         จริงๆ จำเรื่องราวในชุดไตรภาคมุสิกไม่ได้แล้ว ชุดนั้นอ่านมานานมากกกก แต่ก็ยังพอรื้อฟื้นเรื่องราวได้บ้างอยู่ตอนที่อ่านเริงระบำ

TV People - Haruki Murakami

Image
เรื่อง: ทีวีพีเพิล (TV People) ผู้เขียน: Haruki murakami แปลโดย: รวมนักแปลหลายท่าน สนพ. กำมะหยี่ "ทีวีพีเพิลมาที่ห้องของผมตอนเย็นวันอาทิตย์..."         รวมเรื่องสั้นชุดใหม่ล่าสุดของเฮียมู หรือฮารูกิ มูราคามิ นักเขียนชื่อดังชาวญี่ปุ่น อีก 1 นักเขีนโปรดของข้าพเจ้า จริงๆ อ่านจบมาสักพักละ สั่ง pre-order มาจากเพจ  https://www.facebook.com/readery?fref=ts  ตั้งแต่ก่อนงานมหกรรมหนังสือเมื่อปลายเดือนต.ค.ที่เพิ่งผ่านมา แต่ยังนึกถ้อยความที่จะมาบอกกล่าวเล่าถึงในบล็อกนี้ไม่ออก พอดีเพิ่งอ่าน "เริงระบำแดนสนธยา (Dance Dance Dance)" จบ บวกกับวันนี้ถึงบ้านเร็ว ก็เลยมาเขียนบล็อกสักหน่อย ไม่งั้นนานไปจะไม่ได้เขียน และลืมเรื่องราวเสียก่อน        บอกก่อนเลยว่าอ่านแล้วไม่สามารถตีความได้อย่างคำตามในเล่ม หรืออย่างที่นักอ่านเก่งๆ หลายคนเขาวิเคราะห์ตีความกันได้ อ่านเพื่อความบันเทิงและความชอบล้วนๆ ;p ผลงานของเฮียมูไม่ว่าจะเป็นนิยาย หรือเรื่องสั้นค่อนข้างจะแปลกแหวกแนวอยู่สักหน่อย เรื่องราวลึกลับ ผู้คนประหลาด บางตอนก็เหงาเคว้งคว้าง บางตอนตื่นเต้นลุ้นระทึก ส่วนใหญ่โทนเรื่องจ

ทองเนื้อเก้า...ใครๆ ก็ด่าลำยอง

Image
                    "พ่อแม่รังแกลำยอง"      ช่วงนี้วันจันทร์ - อังคาร เวลาละครหลังข่าว ใน TL ทั้ง facebook และ twitter มีแต่คนด่าลำยอง สงสารไอ้หนูวันเต็มไปหมด อินกันทั้งบ้านทั้งเมือง เป็นอีก 1 ปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ และอ่านสนุกใน social network      แต่ข้าพเจ้าดันเกิดความคิดแว่บขึ้นมาว่า ตั้งแต่ละครฉายมาจนบัดนี้ ไม่มีใครว่าแม่ หรือครอบครัวของลำยองเลยนะ ซึ่งจริงๆแล้วครอบครัวนี้เข้าข่าย "พ่อแม่รังแกฉัน" มากๆ เทิดทูนลำยองเพราะสวย เชื่อว่าเป็นนางฟ้ากลับชาติมาเกิด กินเหล้ายาดองก็ไม่ห้าม ส่งเสริมให้เข้าหาผู้ชาย แสวงหาเงินทองความฟุ้งเฟ้อ ผัวจนก็ยุให้ทิ้งผัว มีลูกดีไม่รักลูก ทิ้งๆ ขว้างๆ ก็ไม่ตักเตือนห้ามปราม พ่อและน้องๆ ก็ส่งเสริมไม่กล้าขัด ไม่กล้าปราม จะเห็นว่าคนรอบตัวลำยองล้วนมีส่วนส่งเสริมให้นางเดินทางถลำลึกสู่ความเสื่อม จริงๆ แล้วนางน่าสงสารนะ      ส่วนเจ้าวัน แม้ว่าแม่ไม่รัก ก็รักแม่เหลือเกิน เป็นเด็กดีเหลือเกิน บางคนก็ว่าในชีวิตจริงไม่มีทางจะมีเด็กที่ดีได้ขนาดนี้ถ้าเจอแม่แบบลำยอง แต่เราว่าเป็นไปได้นะ เราชื่อว่า "ธรรมะ" ช่วยได้จริง ไอ้หนูวัน

คนแคระ ของ วิภาส ศรีทอง

Image
เรื่อง: คนแคระ ผู้แต่ง: วิภาส ศรีทอง สนพ. สมมติ "ดังนั้น การโดนจับเป็นคนแรกแม้จะน่าผิดหวัง แต่ก็ยังไม่เลวร้ายเท่าการถูกละทิ้งรั้งท้ายโดนตัดออกจากเกม" - หน้า 333 โดยส่วนตัวรู้สึกอิจฉาคนที่อ่านหนังสือแล้วสามารถวิเคราะห์ วิจารณ์ เข้าใจในสิ่งที่หนังสือ หรือผู้แต่งต้องการสื่อพอสมควรทีเดียว ปกติฉันอ่านแค่สรรหาความบันเทิงจากถ้อยความ กลิ่น และสัมผัสของหน้ากระดาษเพียงเท่านั้น คนแคระ นวนิยายรางวัลซีไรต์ปี 55 เล่มนี้ กว่าจะอ่านจบได้ก็ใช้เวลาและความอุตสาหะพอสมควร เนื้อเรื่องเครียดทีเดียว ประมาณ 95% เป็นบทบรรยายความรู้สึกนึกคิดของตัวละคร ไม่มีที่มาที่ไป ไม่มีถ้อยคำใดเฉลยชี้ชัด บ่อยครั้งที่ผู้เขียนเล่นคำเยอะซะจนอ่านแล้วรู้สึกเหนื่อย ที่อ่านจนจบเพียงเพราะลุ้นหาคำตอบของเรื่องราวต่างๆ และนั่นอาจเป็นเสน่ห์ของนิยายเล่มนี้...ก็เป็นได้ จากข้อความประกาศรางวัลท้ายเล่ม และจากเว็บไซต์ที่อ่านมา คนแคระ "เป็น นิยายที่มีน้ำเสียงวิเคราะห์พิจารณาจิตใต้สำนึกมนุษย์ เสนอปัญหาสัมพันธภาพระหว่างมนุษย์" โดยมีตัวละครหลักคือ เกริก ชายหนุ่มฐานะดี ฉลาด หากแต่ไม่ยอมเรียนให้จบ