LOL [2012] - คลิกรักให้ลงล็อก


เพิ่งมีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้หลังจากดองไว้นาน เนื่องจากคิดว่าคงเป็นหนังรักวัยรุ่นสูตรสำเร็จทั่วไปที่เดาตอนจบได้ไม่ยาก แต่ปรากฏว่าคิดถูกแค่ครึ่งเดียวแฮะ 

ที่เลือกเรื่องนี้มาดูก็ด้วยเหตุผล 3 ข้อ คือ 1. ติดใจพ่อหนุ่ม Douglas Booth มาจากตอนไปดู Romeo & Juliet [2013], 2. อยากดูหนังเบาๆ สบายๆ ก่อนนอน 3. ในบรรดาหนังที่ลงในเครื่องไว้เรื่องนี้สั้นสุด จะได้ไม่จบดึกจนเกินไป (ราวๆ ชม. ครึ่ง) หลังจากดูแล้วก็ชอบพอสมควรจนนึกอยากจะเขียนบล็อกถึง บวกกับนอนไม่หลับถึงได้ลุกมานั่งปั่นบล็อกนี้เอาตอนตี 2 ครึ่ง! จะว่าไป LOL นี่เป็นหนังเรื่องแรกของปี 2014 เลยแฮะ

LOL บอกเล่าเรื่องราวของโลล่า หรือโลล (โลลคือชื่อที่เป็นเหมือนฉายาของเธอที่เขียนย่อจากชื่อจริงแล้วไปพ้องรูป + เสียงกับภาษาแชท LOL ที่แปลว่า Laugh Out Loud) กับกลุ่มเพื่อน ทั้งเรื่องเรียน มิตรภาพ ความรักของทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ และยังปัญหาครอบครัวอีก เตรียมกอดคอโลล่าแล้วผ่านมันไปด้วยกันกับเธอได้เลย

หนังเดินเรื่องกระชับ ไม่เยิ่นเย้อ แล้วก็สนุกดี แล้วก็ไม่ได้เน้นหนักไปที่รักระหว่างวัยรุ่นอย่างเดียว ประเด็นหลักที่หนังอยากนำเสนอน่าจะเป็นความรักความผูกพันระหว่างแม่ลูก (เดาเอานะ) ครอบครัวโลล่าอบอุ่นมาก รักแม่กับยายของนาง หนังได้ Demi Moore มารับบทแม่นางเอกหรือโลล่าของเรา ซึ่งรับบทโดย Miley Cylus (ดูแล้วไม่อยากจะเชื่อว่าจะเป็นคนเดียวกับเจ๊ที่เปลือยขี่ลูกบอลในเอ็มวีนะ 55) ในความเห็นของเราตัวหนังสื่อให้เห็นถึงความสำคัญของ "การสื่อสาร" กันระหว่างตัวละครดีมากนะ แม้ว่าพ่อกับแม่จะหย่ากัน แต่ดูนั่นจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของโลล่าเลย แม่กับโลล่ารัก และสนิทกันมาก มีกอดกัน บอกรักกันตลอด และที่สำคัญคือแม่ของโลล่าแชทคุยกับลูกด้วย เป็นคุณแม่สมัยใหม่ทีเดียว และนั่นทำให้แม่เข้าถึงลูกง่ายขึ้นมาอีกหน่อย และที่น่ารักและขโมยซีนเบาๆ น่าจะเป็นคุณยายของโลล่านะ ชอบนาง ^^

ฉากที่พ่อแม่ยึดโทรศัพท์มือถือ และคอมฯ ลูกๆ นี่แสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของเครื่องมือเหล่านี้ที่มีต่อวัยรุ่นมากทีเดียว คือเหมือนปิดโลกของเด็กไปเลย ฉับ! ตัดขาดการติดต่อสื่อสารกับเพื่อนฝูง อารมณ์คงเหมือนโดนตัดน้ำตัดไฟ ลอยแพ ปล่อยเกาะอ่ะ ซึ่งอย่างเรานี่แค่เน็ตเดี้ยงไปก็กระวนกระวายแล้วนะ >.,<" ฉากที่ชอบที่สุดคือตอนที่โลล่าส่งเมลมาง้อแม่ แบบโถๆ แม่คุณ ถ้าไม่มี e-mail นี่คงได้เห็นนางนั่งเขียนจดหมายมาง้อป่ะ รอไปสิ 3 วันกว่าจม. จะถึง 55 เราทุกคนน่าจะเคยผ่านประสบการณ์ง้อพ่อแม่กันมาแล้วทั้งนั้น สำหรับคนที่พ่อแม่เล่นแชทนี่จะง้อง่ายกว่าคนที่ไม่ได้เล่นหรือเปล่า?

จริงๆ แล้วพวก e-mail และ Social Network ทั้งหลายแหล่ถ้าเราเลือกใช้ให้มันถูกวิธีมันก็ทำให้เรา "ใกล้" กันมากขึ้นนะ เหมือนอย่างโฆษณา Line แล้วก็แบบโลล่ากับแม่นั่นล่ะ แต่ถ้าใช้ในทางไม่ดีมันก็เป็นโทษกับเราแน่นอน 

ทุกวันนี้เราใช้กันแบบไหน ส่วนใหญ่แล้วจะกลายเป็น "คนที่ใกล้ กับไกลมากขึ้น ส่วนคนไกลอาจจะใกล้ หรือลาขาดจากกันไปเลย" หรือเปล่า... 

Comments

Popular posts from this blog

[Spoiler Alert] เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) สปอยล์แหลกตามคำขอของน้อง

เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) หนังสือดีๆ อีกเล่มที่อยากแนะนำให้อ่าน

ลำนำรักเทพสวรรค์ ภาค หนึ่งคำมั่น สัญญานิรันดร์ (Promise Me a Forever)