[Spoil นะจ๊ะ] The Five-Year Engagement [2012] - จะกินโดนัทเก่า หรือรอของใหม่
"คุณยังจำตอนเราเจอกันครั้งแรกได้ไหม?"
ไวโอเลต กับทอมพบรักกันครั้งแรกในงานปีใหม่
ผ่านไป 1 ปีพวกเขาก็หมั้นกัน และกำลังจะแต่งงาน
แต่...น้องสาวตัวแสบของไวโอเลตดันชิงป่องแล้วแต่งตัดหน้าไปก่อนซะนี่!
แถมงานของน้องก็จัดออกมาดีซะจนทั้งคู่รู้สึกกดดันกับงานตัวเอง
เท่านั้นยังไม่พอ จู่ๆ ม.มิชิแกนก็ตอบรับไวโอเลตเข้าทำงาน ทำให้แผนแต่งงานต้องเลื่อนออกไป
ทั้งคู่ต้องย้ายไปอยู่มิชิแกนเพราะงานใหม่ของไวโอเลต
ทอมตัดสินใจเสียสละทิ้งงานเชฟที่เขารักไปอยู่กับเธอ
แต่เมื่องานใหม่ของทอมไม่ได้ดีอย่างที่เขาคาดไว้ ในขณะที่ไวโอเลตก้าวหน้าในงานของเธอขึ้นเรื่อยๆ
งานแต่งที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีกจนไม่มีวี่แววว่าจะเกิดขึ้นสักที
แล้วมันจะยังไงกันต่อล่ะทีนี้?!
หนังน่ารักดี ตัวละครน่ารักและมีเสน่ห์ สนุกปานกลาง ดูจบแล้วชอบประเด็นในหนัง
คันไม้คันมืออยากเขียนบล็อกถึงซะหน่อย แต่จะเขียนแบบไม่สปอล์ยเลยคงไม่ได้
เราจึงประกาศกันตั้งแต่หัวเรื่องเลยว่าเราจะสปอล์ยแน่นอน ฮ่าา
บางคนอาจจะเคยเจอเหตุการณ์แบบทอมกับไวโอเลต
ต้องเลือกระหว่างหน้าที่การงานกับความรักที่สวนทางกัน
จะยอมเสียสละเพื่อความสุขของอีกฝ่าย หรือเห็นแก่ตัวเพื่อความก้าวหน้าของตัวเอง
หรือหาทางที่มันจะไปด้วยกันได้ทั้งสองฝ่ายแบบสันติอหิงสา
พระเอกนางเอกของเรื่องนี้กว่าจะค้นพบหนทาง พวกเขาก็ต้องเรียนรู้
และผ่านอะไรมากมายไปด้วยกันตลอดการเดินทาง
นอกจากเรื่องงาน ความคาดหวังที่จะให้งานแต่งออกมาดี perfect ก็เป็นอีกปัญหาของคู่นี้
งานแต่งงานที่ดีควรเป็นอย่างไรล่ะ เริ่ดหรูอลังการ มีนกพิราบ มีไวโอลิน หรือเปียโน
มีฟองสบู่บุ๋งๆ เค้กก้อนโตๆงั้นเหรอ?
นอกจากเรื่องงาน ความคาดหวังที่จะให้งานแต่งออกมาดี perfect ก็เป็นอีกปัญหาของคู่นี้
งานแต่งงานที่ดีควรเป็นอย่างไรล่ะ เริ่ดหรูอลังการ มีนกพิราบ มีไวโอลิน หรือเปียโน
มีฟองสบู่บุ๋งๆ เค้กก้อนโตๆงั้นเหรอ?
ฉากที่ชอบที่สุดมีอยู่สามฉาก ฉากแรกคือตอนที่ทอมกินอาหารกับพ่อแม่
แล้วแม่รุกถามเรื่องราวระหว่างเขากับไวโอเลต ทอมตอบประมาณว่า
"เขากับไวโอเลตเข้ากันไม่ได้ 100%" (อาจจะคลาดเคลื่อนไปบ้างนะคะ จำเป๊ะๆ ไม่ได้)
แม่ของทอมบอกเขาว่า "พ่อกับแม่เองยังเข้ากันได้ไม่ถึง 90% เลย
เผลอๆ อาจจะไม่ถึง 60% ด้วยซ้ำ"
อีกฉากก็ตอนที่ไวโอเลตกับน้องเล่นกับหลาน/ลูก แล้วทั้งคู่ต้องดัดเสียงเป็นเอลโม กับคุกกี้
(ตัวละครดังจาก Sesame Street) สองคนเถียงกัน
ไวโอเลตบอกประมาณว่าเธอแค่จะหาคุกกี้ที่เหมาะกับตัวเอง
ส่วนน้องสาวบอกไปว่าจะมัวหาทำไม พี่ก็แค่เลือกมาสักชิ้นแล้วชิมมันเท่านั้นแหละ
และตอนที่ทอมคุยโทรศัพท์กับไวโอเลตถึงสัญญาณของความล้มเหลวในความสัมพันธ์ของทั้งคู่
แล้วไวโอเลตตอบว่าตอนที่ทอมกินโดนัทเก่า แทนที่จะรอให้เธอซื้อมาใหม่
เธอว่าเธอเคยทำวิจัยเรื่องนี้ และผลออกมาว่าคนที่เลือกกินโดนัทเก่าคือคนที่มีปัญหาในความสัมพันธ์
และนั่นทำให้เธอกลัว ทอมฟังแล้วโกรธมาก เขาบอกเธอว่า
"ทำไมเขาต้องรอโดนัทใหม่ที่ไม่รู้ว่าจะมาเมื่อไร และไม่รู้ว่าจะมาถึงไหมด้วยซ้ำ
เขากินโดนัทเก่าเพราะมันอยู่ตรงนั้น และมันอร่อยดี เขาชอบมัน"
ทั้งสามฉากนี้เหมือนจะพูดถึงเรื่องเดียวกันในความรู้สึกของเรา
ในทุกความสัมพันธ์มันไม่มีทางที่จะมีอะไร หรือใครที่สมบูรณ์ เข้ากันได้ 100% หรอก
nobody perfect
ทั้งสองอาจจะเข้ามาเติมเต็มกันและกัน คนหนึ่งมีในสิ่งที่อีกคนขาดหาย
หรืออาจจะไม่มีอะไรที่เหมือนหรือเข้ากันเลยก็ได้ แต่พวกเขาก็อยู่ด้วยกันได้
อยู่ที่สองคนจะหาทางไปด้วยกันได้หรือเปล่า เราจะต้องคุยกัน ฟังกัน รักกัน ให้อภัยกัน
และต้องไม่ลืมวันแรกที่เจอกัน ความดีในตัวอีกฝ่ายที่ทำให้เรารักและประทับใจ
และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ยังอยากอยู่ด้วยกัน
จะรอคนที่ perfect เข้ากันได้ทุกอย่าง หรือมีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่ตรงหน้า
โดนัทเก่า หรือค้างคืนก็ใช่ว่าจะไม่อร่อยนี่ ใช่ไหม
(แนะนำ Daddy Dough นะ ค้างคืนก็ยังอร่อย อุ่นร้อนหน่อยใช้ได้เลย ;p)
จะรอคนที่ perfect เข้ากันได้ทุกอย่าง หรือมีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่ตรงหน้า
โดนัทเก่า หรือค้างคืนก็ใช่ว่าจะไม่อร่อยนี่ ใช่ไหม
(แนะนำ Daddy Dough นะ ค้างคืนก็ยังอร่อย อุ่นร้อนหน่อยใช้ได้เลย ;p)
ในช่วงเวลาที่ไวโอเลตอยากจะเห็นแก่ตัวคว้าโอกาส คว้างานที่เธอฝันไว้
ทอมก็เสียสละเส้นทางของตัวเอง และหันมาอยู่เคียงข้างเธอ
เราว่าความรักก็แบบนี้แหละ บางเวลาต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่เสียสละ
แน่นอนว่ามันอาจไม่ยุติธรรม แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่เหนือบ่ากว่าแรงเลยใช่ไหม
ถ้ารักกันซะอย่าง ^^
(อ้อ แต่ก็ต้องไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเสียสละอยู่ฝ่ายเดียวตลอดนะ ให้บ้าง รับบ้าง เจอกันครึ่งทางบ้างถึงจะดี)
ปล. ตอนจบของเรื่องก็ชอบนะ น่ารักดี
Comments
Post a Comment