2 Fine Days at Hat Yai

ตะลุยกิน ตะลอนเที่ยวชิลๆ ณ หาดใหญ่
บล็อกนี้เน้นอาหารล้วนๆ ค่ะ กินๆ และกิน อย่างจริงจัง 55
**ไม่เหมาะสำหรับคนที่กำลังหิว และลดนน.**

2 วัน 1 คืน ในหาดใหญ่ (3 - 4 พ.ค. 2557)

วัดฉือฉาง ใกล้ๆ โรงแรมวังน้อย
ที่พักของเราในหาดใหญ่
พัก 4 ห้อง 1 คืน 5,000 บาท หาร 10 ตกคนละ 500 บาท
ห้องพักโอเคเลยค่ะ สะอาด ห้องกว้างพอสมควร

ออกจากหลีเป๊ะกันแต่เช้าเลยค่ะ ต้องไปรอขึ้นเรือเฟอร์รี่กลับเข้าฝั่งที่โป๊ะหลีเป๊ะแต่เช้า
คณะเราเลือกเดินทางกลับเรือเที่ยว 9 โมงเช้า ต้องไปถึงโป๊ะก่อน 1 ชม. เพื่อรับบัตรคิวขึ้นเรือ
และโชคดีที่เราไปก่อน เช็คอินกลุ่มแรก เลยได้บัตรคิวคิวแรกๆ เลย
ขากลับนี้เจอคณะคนจีน คุยกันขโมงโฉงเฉงเอะอะสุดๆ เพลียใจเบาๆ
ตั๋วเรือขากลับนี่เราซื้อไว้ล่วงหน้าตั้งแต่วันแรกที่เดินทางถึงท่าเรือปากบาราแล้ว
อ่านรายละเอียดย้อนหลังได้จากทริปหลีเป๊ะตอน 1 - 3
กลับมาถึงท่าเรือปากบารา จ.สตูล ก็ต่อรถตู้ที่เหมาไว้ไปโรงแรมวังน้อย ในหาดใหญ่ จ.สงขลา
เข้าที่พัก เช็คอินแล้วก็ได้เวลา...กินค่ะ!
ประเดิมด้วยไก่ทอดเดชา เดินจากที่พักไปไม่ไกล จัดกันเล๊ยยยย

ไก่ทอดจ้าาาา สั่งไปหลายส่วน แต่เขาสับรวมกันมาในจาน ฮาาาา
อร่อยมว๊ากกก >w<

ส้มตำปูม้า หน้าตาอลังการนะ แต่รสชาติเฉยๆ
ส้มตำไข่เค็มอร่อยกว่า (ไม่ได้ถ่ายมา)

จานนี้เมนูแนะนำ ปลาบิน ลืมแล้วว่าทำจากปลาอะไร
ก็อร่อยดีค่ะ แต่ไม่ถึงกับฟิน

ที่ไก่ทอดเดชานี่จริงๆ สั่งอีกหลายอย่าง แต่ถ่ายรูปมาได้เท่านี้ ซุปไก่เขาก็อร่อยค่ะ
อร่อยกว่าสาขาของบ๊วย - เวียร์ตรงเกษตรนวมินทร์นะ
แล้วก็ที่พลาดไปก็คือ ลืมสั่งลูกตาลลอยแก้วมากิน คือร้อนมาก กินเสร็จก็รีบกลับโรงแรมกันค่ะ 55

กินเสร็จกลับโรงแรม นอนเล่นพักผ่อนกันตามอัธยาศัย
ไม่มีโปรแกรมอะไรมาก ในหาดใหญ่มีร้านค้าเยอะค่ะ
ใครใคร่ช็อปก็ช็อปได้ตามสบาย เซ็นทรัลก็มี ร้านอาหารก็มีหลายร้าน
แนะนำกระทู้นี้ค่ะ http://pantip.com/topic/31137761 มีบอกพิกัดร้าน(น่า)อร่อยหลายร้าน
สนใจเชิญตามลายแทงกันได้

ตกเย็นก็ได้เวลา...กินค่ะ!
มาต่อกันที่มื้อเย็นเล๊ยยยย ข้าวต้มๆๆๆ
เลือกกินร้านใกล้โรงแรมวังน้อยค่ะ เห็นคนกินเยอะเลย
ร้านข้าวต้มสองเจริญ

ข้าวต้มชามใหญ่มาก

ผัดผักบุ้ง ใส่พริกด้วย ใครไม่กินเผ็ดต้องระบุไปตั้งแต่ตอนสั่งนะคะว่าไม่ใส่พริกไรงี้

ไข่เจียว

ปลาหมึกผัดไข่เค็ม

ผัดหอยลาย

ต้มยำรวมมิตรทะเลค่ะ แซ่บมากกกก

ผัดเห็ดสามอย่าง

ใบเหลียงผัดไข่

ร้านนี้เขาทำตามคิวส่งออเดอร์นะคะ มาก่อนส่งออเดอร์ทีหลัง ก็ได้ทีหลังโต๊ะที่สั่งก่อนค่ะ
เพราะงั้นถ้าไปกินแล้วเห็นโต๊ะที่มาทีหลังได้อาหารก่อน ก็อย่าหงุดหงิดนะคะ
ร้านเขาทำป้ายประกาศแจ้งล่วงหน้าเลยค่ะ ชัดเจนมาก 55
แล้วก็ถ้าหิวซ่กๆ มา ไม่แนะนำร้านนี้นะคะ เพราะรออาหารค่อนข้างนาน
คนเยอะ คิวยาว พ่อครัวคนเดียวค่ะ ต้องใจเย็นๆ นะคะ
ทั้งหมดค่าเสียหายออกมา 1460 บาท ถูกมากค่ะ
อาหารก็มาจานใหญ่ อร่อยใช้ได้ ให้ 7 เต็ม 10 เลยยย

ของหวานค่ะ ข้าวเหนียวมะม่วง >3<
วันแรกในหาดใหญ่จบแค่นี้ค่ะ ตอนแรกจะไปเดินถนนคนเดิน แต่ปรากฏว่าไม่มีแล้ว
ก็เลยตัดสินใจกลับโรงแรมพักผ่อนกันดีกว่า

วันรุ่งขึ้น (4 พ.ค.) ก็ประเดิมมื้อแรกด้วยติ่มซำที่ร้านโชคดีแต่เตี้ยม
แล้วก็เจอเรื่องสยองแต่เช้าที่ร้านนี้

โชคดีแต่เตี้ยม

เรื่องสยองที่ว่าก็คือเจอแมลงสาบตัวใหญ่พอสมควรในหม้อบักกุ๊ดเต๋ค่ะ
สั่งมาสองหม้อ โชคดีที่หม้อที่ข้าพเจ้ากินนั้นไม่มี
ไปแจ๊คพอตเอาที่หม้อของท่านผู้นำ กับพลพรรคอีก 4 คนที่กินด้วยกัน
ตักขึ้นมาอวัยวะครบส่วนค่ะ สบายใจนิดนึงว่ายังไม่มีใครกินเข้าไป ฮือออออ
เรียก(เข้าใจว่า)เจ้าของร้านมาที่โต๊ะ แล้วชี้ให้ดูเจ้าแมลงสาบ
เขาก็ตกใจ แต่...รับผิดชอบแค่เปลี่ยนบั๊กกุดเต๋หม้อใหม่ให้ และไม่คิดเงินหม้อที่มีแมลงสาบ
แอบเซ็งเล็กน้อยร้านดัง แต่ชดเชยให้แค่นี้ ถถถถ
หลังจากนั้นบรรยากาศค่อนข้างอึมครึมค่ะ ไม่กล้าแตะบักกุ๊ดเต๋กันอีกเลย 5555

เอาล่ะ ไปเที่ยวดีกว่า ลืมแมลงสาบไปซะ
ที่แรกที่ไปคือ สงขลา อควาเรียมค่ะ
ตอนไปดำน้ำไม่ได้ถ่ายรูปใต้น้ำ มาถ่ายเอาบนบกที่นี่ละกัน
ค่าบัตรเข้าผู้ใหญ่คนละ 150 บาทค่ะ มีโชว์นักประดาน้ำ เล่นกับปลาและเต่าให้ดูด้วย

ปลามังกรนะ คิดเอาไว้ว่าใช่ ต้องใช่แน่ๆ

บ่อนี้รวมหลายพันธุ์ค่ะ

นีโม

ปลาตัวเล็กๆ สีฟ้า ปลาอะไรไม่รู้

ปลาอะไรหว่า

ตู้นี้จัดสวย

ม้าน้ำ

ร่างปลาฉลาม

โชว์เริ่มตอนประมาณบ่าย 2 ค่ะ เริ่มกันที่คุณเต่าใส่เสื้อมาทักทายพร้อมนักประดาน้ำ
น่ารักอ่ะ 55

คุณเต่าตัวเดียวกับรูปแรก

นี่คุณป้าเต่าอีกตัวค่ะ

โชว์ก็จะมีให้อาหาร เล่นกับปลากระเบน อะไรแบบนี้ค่ะ พาเด็กๆ ไปน่าจะชอบ
ผู้ใหญ่ก็ไปกันเยอะนะคะ อย่างคณะข้าพเจ้าเป็นต้น เนียนไปกับเด็กๆ 555

จบจากสงขลา อควาเรียม พวกเราข้ามสะพานติณนสูลานนท์ไปเกาะยอกินมื้อเที่ยงกันค่ะ

ฟ้าสวยๆ บนสะพานติณนสูลานนท์ค่ะ

ข้ามไปเกาะยอ เราเลือกกินที่ร้านอาหารศิรดา
อาหารหร่อย สด บรรยากาศพอใช้ได้ค่ะ ร้านยื่นลงไปในทะเลด้วย
แต่ตอนไปน้ำลง เห็นขี้โคลนด้วย เลยลดคะแนนบรรยากาศลง 55
มาดูอาหารกันเลยดีกว่า ร้านนี้ให้ 8 เต็ม 10 เลย

เริ่มจากจานไกลสุด ทอดมันกุ้ง หอยแครงลวก กุ้งแช่น้ำปลา และเนื้อปูผัดผงกะหรี่
มีข้าวผัดปูจานใหญ่อีกจาน ข้าวเปล่าอีกโถ ถ่ายไม่ทันจริงๆ ค่ะ แร้งลง 555

ซูมกุ้งแช่น้ำปลา เมนูโปรดของข้าพเจ้า อิอิ

ปลากระพงทอดกระเทียม ตัวนี้เกือบ 3 โล ประมาณ 1,200 บาทค่ะ
(ราคาตามน้ำหนัก) อร่อยมาก ตัวใหญ่มาก

ยำศิรดา

ยำถั่วพลู

กุ้งศิรดา สั่งกุ้ง 1/2 โล ประมาณ 9 ตัว ค่ะ ตัวใหญ่พอสมควร
จานนี้เมนูแนะนำ อร่อยค่ะ

ของหวาน ลูกตาลเชื่อม หว๊านหวานน
(ของหวานอย่างอื่นก็มีสละลอยแก้ว บัวลอย และเฉาก๊วย)
เบ็ดเสร็จค่าเสียหายที่ร้านศิรดานี่ออกประมาณ 3 พันกว่าบาทค่ะ

ต่อมาข้ามกลับมาที่หาดใหญ่อีกรอบ ท่านผู้นำจะพาไปนั่ง Cable Car ไหว้องค์พระใหญ่ ชมวิว
ที่สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ค่ะ
ค่าบริการ Cable Car คนละ 100 บาท

วิวสวยดี หวิวๆ เล็กๆ มันสูงค่ะ 555

ตรงจุดที่ขึ้นกระเช้า หรือ Cable Car

โฉมหน้า Cable Car ค่ะ ก็ปลอดภัยดี ไม่มีแกว่ง
ตู้นึงรู้สึกจะนั่งได้สูงสุด 8 คน นั่งข้ามไปอีกยอดเขานึง

ข้ามมามีเทวรูปมากมายให้สักการะ พระพรหม พระพิฆเนศ ฯลฯ

พระพรหม

รูปปั้นช้าง คิดว่าช้างเอราวัณนะคะ สามเศียร


นั่ง Cable Car กลับมาค่ะ สักการะพระพุทธมหามงคลมหาราช


ด้านหน้าพระมหามงคลมหาราช มีบันไดให้เดินลงไป
ที่เห็นองค์ขาวๆ ไกลๆ โน่น คือเจ้าแม่กวนอิมค่ะ
คณะเราไม่ได้เดินลงไป สูงค่ะ เมื่อย ไขข้อเสื่อมกันหมดแล้ว
เลยไม่แน่ใจว่าบันไดนี่จะพาเราลงไปถึงองค์เจ้าแม่กวนอิมเลยไหม
แต่สามารถขับรถวนลงไปได้ค่ะ มีที่จอดรถให้ ใครอยากไหว้เจ้าแม่ก็แวะลงไปได้ค่ะ
อ่อ ทางขับขึ้นมาบนยอดเพื่อขึ้น Cable Car นี้เป็นทางขึ้นเขาค่อนข้างชัน
ขับรถก็ต้องระมัดระวังกันหน่อยนะคะ

จบทริปหลีเป๊ะ - หาดใหญ่ 5 วัน 4 คืนเพียงเท่านี้ค่ะ
หลังจากนี้ก็ตรงไปสนามบินหาดใหญ่ อ่อ การเดินทางในหาดใหญ่คณะเราเช่ารถขับค่ะ
ซื้อโปรโมชั่นจากงานไทยเที่ยวไทย บริษัท AVIS คันละ 600 + 300 (สำหรับส. - อา.) เป็น 900/คัน
ค่ามัดจำก็ 20,000 บาท หักผ่านบัตรเครดิต 
(ถ้าจำไม่ผิดยอดมัดจำจะคืนมาในบัตรเครดิตภายใน 2 สัปดาห์ค่ะ)

สนุก สวย ประทับใจมาก
เห็นท่านผู้นำบอกว่า หลีเป๊ะนี่มัลดีฟเมืองไทย
ไม่ไปไม่รู้วววววว
-สวัสดี-







Comments

Popular posts from this blog

[Spoiler Alert] เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) สปอยล์แหลกตามคำขอของน้อง

เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) หนังสือดีๆ อีกเล่มที่อยากแนะนำให้อ่าน

ลำนำรักเทพสวรรค์ ภาค หนึ่งคำมั่น สัญญานิรันดร์ (Promise Me a Forever)