Transcendence [2014] - คอมพ์สมองคน พิฆาตโลก **อาจมีสปอล์ยเนื้อหาบางส่วน**


Transcendence หรือชื่อภาษาไทยว่า คอมพ์สมองคน พิฆาตโลก
หนังแนว Drama / Scifi ที่มีป๋าเด๊บขวัญใจจขบ. รับบทนำ
มาคราวนี้ป๋ามาในมาดศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านคอมพิวเตอร์
กลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ต่อต้านเทคโนโลยีสมองกล ลงมือทำร้ายจนท. ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์
เพื่อหยุดยั้งการพัฒนาศักยภาพให้คอมฯ ทัดเทียม หรือคิดได้เองเหมือนคน
วิล คาสเตอร์ (ป๋าเด๊บ) ถูกผู้ก่อการร้ายลอบยิงในงานแสดงผลงาน
ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เอเวอลีน ภรรยาของวิล ร่วมกับแมกซ์เพื่อนของพวกเขา
ทำการเชื่อมต่อสมองของวิล กับ พินน์ ระบบคอมฯ อัจฉริยะที่พวกเขาช่วยกันพัฒนา
เพราะเอเวอลีนทนไม่ได้ที่ต้องเสียเขาไป พวกเขาถ่ายโอนความทรงจำ
ความรู้ของวิลเข้าไปสู่พินน์ และพวกเขาก็ทำสำเร็จ
แต่ทันทีที่วิล ซึ่งในขณะนี้เป็นระบบคอมฯ ไปแล้วออนไลน์
เขาก็เรียกร้องขอให้เชื่อมต่อเขาเข้ากับระบบเน็ตเวิร์กเพื่อออนไลน์ไปทั่วโลก
แม็กซ์เริ่มมองเห็นถึงปัญหา และกังวล เขาพยายามชี้แจงให้เอเวอลีนเห็นว่านั่นไม่ใช่วิลจริงๆ
แต่เอเวอลีนไม่ฟัง เธอเชื่อว่านั่นคือวิลของเธอจริงๆ และไล่แมกซ์ไป
เอเวอลีนต้องรีบหนีออกจากที่ซ่อน เพราะพวกผู้ก่อการร้ายตามมาเพื่อทำลายวิล
เธอหนีไปตามคำแนะนำของวิล ไปถึงเมืองๆ หนึ่ง และสร้างอาณาจักรของพวกเขาขึ้นมา
2 ปีผ่านไป ระบบของวิลพัฒนาขึ้นมาก
ไม่นานเอเวอลีนก็เริ่มกังวล และกลัวในความสามารถของวิล
เขาสามารถเชื่อมต่อและเข้าควบคุมผู้คนได้ แทรกซึมไปตามแหล่งน้ำ ดิน ฝน และอากาศ
โจเซฟ (เพื่อนร่วมงานของวิลและเอเวอลีน) แมกซ์ ผู้ก่อการร้าย FBI และทหาร
ทุกฝ่ายหันมาร่วมมือกันเพื่อหยุดยั้งระบบวิล

หนังสนุกดีนะ ชอบพล็อตเรื่องอ่ะ เดินเรื่องตื่นเต้นดี ไม่น่าเบื่อ หรือเครียดจนเกินไป
มีจุดพลิกผันให้ร้องอ้าว เบาๆ
ส่วนตัวป๋านั้น ก็มาแบบเป็นผู้เป็นคน ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องอย่างที่กลัว 55
หนังแนวคอมฯ สมองกล หรือหุ่นยนต์ที่ถูกพัฒนาจนมีความสามารถเหนือมนุษย์
และสุดท้ายย้อนกลับมาทำร้ายมนุษยชาติเสียเองนี่ก็มีมาให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ
นอกจากจินตนาการแล้ว ก็อาจเป็นเพราะความกลัว หรือความกังวล
ว่าสักวันเจ้าพวกสมองกลอัจฉริยะพวกนี้อาจขยายขอบเขตอำนาจจนครองโลกเข้าสักวัน

คนเราจะกลัวในสิ่งที่ไม่เข้าใจ

จริงๆ แล้วไอ้ความคิดแบบหนังแนวนี้มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้นะ
เผลอๆ มันอาจจะกำลังเกิดขึ้นในยุคสังคม social media อย่างทุกวันนี้ก็เป็นได้
เพียงแต่ (ยัง) ไม่ถึงขั้นมีหุ่นยนต์มาบุกไล่ฆ่าคน
แต่อาจเป็นไปในอีกรูปแบบหนึ่ง...
ดูเอาง่ายๆ จากวิธีการใช้บรรดา technology/social network/media ต่างๆ ของหลายๆ คน
เราว่าพวกเรากำลังปล่อยให้สิ่งเหล่านี้มีอิทธิพล ครอบงำต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ
หิว เมื่อย เหนื่อย เหงา ก็โพสท์บอกโลก social network
ตื่น กิน นอน ก็ไม่เคยห่างจาก smart devices หรือ computer
การแชร์ข้อมูลต่อๆ กัน โดยขาดการตรวจสอบข้อเท็จจริง
เน็ตล่มทีก็กรีดร้องประหนึ่งก๊อดซิลล่าตอนปะทะโมจิโต้นั่นเลยทีเดียว
พวกเรากำลังใช้ technology หรือ technology กำลังใช้เรา?

การที่อยู่ดีๆ ก็แห่กันไปรุมด่า หรือโจมตีคนอื่นใน social network
อย่างกรณีที่มีการสร้างเพจแอนตี้ทั้งหลาย หรือไปเมนท์ต่อว่าดารา
นั่นก็น่าจะเป็นตย. ของการที่ social media / technology กลายมาเป็นเครื่องมือ
ในการจู่โจม พิพากษา ทำร้ายผู้อื่น
การที่คนที่ไม่เคยเจอหน้า ไม่เคยรู้จักกันเลยมาด่ากันได้โครมๆ
หรือมาขอฝากร้านกันรัวๆ ก็น่าจะแสดงถึงความน่ากลัว
และอันตรายของการเข้าถึงกันที่ง่ายเกินไป และการที่ผู้คนขาดความเกรงใจ
และขาดความเคารพในสิทธิของคนอื่น

คำถามที่ติดตามมาตั้งแต่ตอนดูหนัง จนกระทั่งหนังจบก็คือ
วิล ในระบบพินน์นั่น คือวิล จริงๆ
หรือคือโปรแกรมคอมพิวเตอร์
ความน่ากลัวของการที่คอมฯ พัฒนาจนมีความสามารถเทียบเท่า หรือเหนือกว่าผู้สร้าง
ก็คงจะเป็น จุดที่เราไม่สามารถแยกแยะได้อีกต่อไป
ว่านั่นคือเครื่องจักร 100% หรือมีส่วนของจิตสำนึกมนุษย์อยู่ได้ด้วยบางส่วน
และมันจะพัฒนาไปได้จนถึงจุดที่จะเป็นอันตรายต่อมนุษยชาติหรือเปล่า
เหมือนตอนที่แมกซ์บอกเอเวอลีน ว่าจิตของคนนั้นซับซ้อนเกินกว่าจะสร้างเลียนแบบ
คอมฯ ไม่สามารถคิดซับซ้อน หรือมีอารมณ์ความรู้สึกได้จริงๆ
มันคิดได้เพียงแค่ซ้าย หรือขวา
วิลไม่เคยคิดจะเปลี่ยนโลก คนที่มีความคิดจะเปลี่ยนโลกคือ เอเวอลีน
แล้ว...วิลที่ออนไลน์อยู่ในระบบเน็ตเวิร์คนั้น คือจิตของวิล
หรือเป็นวิล ที่เอเวอลีน "ใส่โค้ด" เข้าไปกันล่ะ

Comments

Popular posts from this blog

[Spoiler Alert] เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) สปอยล์แหลกตามคำขอของน้อง

เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) หนังสือดีๆ อีกเล่มที่อยากแนะนำให้อ่าน

ลำนำรักเทพสวรรค์ ภาค หนึ่งคำมั่น สัญญานิรันดร์ (Promise Me a Forever)