จะเป็นผู้คอยรับไว้ ไม่ให้ใครร่วงหล่น - J.D. Salinger
"ผมสาบานต่อพระเจ้าได้ว่าผมมันบ้า"
(J.D. Salinger, จะเป็นผู้คอยรับไว้ ไม่ให้ใครร่วงหล่น
The Catcher in the Rye, ไลต์เฮ้าส์พลับลิชชิ่ง)
"จะเป็นผู้คอยรับไว้ ไม่ให้ใครร่วงหล่น (The Catcher in the Rye)"
ผู้เขียน: J.D. Salinger
ผู้แปล: ปราบดา หยุ่น
ไลต์เฮ้าส์พลิชชิ่ง
เออ เอ็งมันบ้า! คือความรู้สึกที่ผุดขึ้นมาทุกครั้ง
ที่โฮลเดนกล่าวประโยคที่ขึ้นหัวบล็อกนี้
"จะเป็นผู้คอยรับไว้ ไม่ให้ใครร่วงหล่น" คือเรื่องราวของโฮลเดน
เด็กหนุ่มม. ปลายที่ถูกไล่ออกจากโรงเรียน (อีกแล้ว)
เพราะผลการเรียนอันย่ำแย่ และไม่พัฒนาขึ้นเลย
เขาตัดสินใจในที่สุดที่จะออกจากโรงเรียนมาก่อนกำหนดกลับจริง
แต่เขายังไม่อยากกลับไปเผชิญหน้าพ่อกับแม่ที่บ้าน
ช่วงเวลาไม่กี่วันก่อนถึงกำหนดกลับเดิม
โฮลเดนพาเราท่องไปในมหานครนิวยอร์ก
พบปะผู้คน รับรู้ความคิดทัศนคติของเขาต่อสิ่งต่างๆ รอบตัว และผู้คนทั้งหลาย
โฮลเดนถ่ายทอดเรื่องราวของเขาแบบสุดโต่งทางภาษาอยู่เหมือนกัน
เต็มไปด้วยถ้อยคำแดกดัน ประชดประชัน
และบางช่วงก็รู้สึกว่าออกจะพาลไปหน่อยด้วยซ้ำ
อ่านแล้วคิดถึงเรื่อง "โอลีฟ คิตเตอร์ริดจ์ (Olive Kitteridge)"
เพราะโฮลเดนเป็นตัวละครที่ทำให้เรารู้สึกรำคาญ
เป็นอันดับสองรองลงมาจากเจ๊โอลีฟแกเลยล่ะ
ตัวละครแบบนี้เป็นตัวละครที่น่าสนใจ
ผู้เขียนสร้างคาแรกเตอร์ออกมาได้ดีนะ ทำให้เราอินได้จริงๆ
และการที่เรารู้สึกรำคาญ และเริ่มเห็นว่าโฮลเดนมีอะไรไม่ปกติ
มันก็เหมือนเป็นสัญญาณบางอย่าง
พฤติกรรมของโฮเดนกำลังบอกคนรอบตัวว่าเขามีปัญหา
และเขาคงอยากได้ความช่วยเหลือ อย่างเร่งด่วนซะด้วย
แต่จะมีใครสักคนไหมที่สังเกตเห็น
และลงมือทำอะไรบางอย่างอย่างจริงจัง?
"...คนที่กำลังร่วงหล่นไม่ได้รับอนุญาตให้รู้สึก
หรือได้ยินตัวเองตกกระทบที่ก้นบึ้ง
เขาได้แต่ร่วงหล่นลงไปเรื่อยๆ
มันเป็นสถานการณ์ที่ออกแบบมา
สำหรับคนที่แสวงหาอะไรบางอย่าง
ที่สภาพแวดล้อมของเขาไม่อาจหยิบยื่นให้
ไม่ช่วงใดก็ช่วงหนึ่งในชีวิตของเขา
หรือไม่เขาก็คิดเอาเองว่าสภาพแวดล้อมของเขา
ไม่สามารถหยิบยื่นให้ได้ เขาจึงล้มเลิกการแสวงหา
เขาล้มเลิกก่อนที่จะเริ่มต้นจริงๆ ด้วยซ้ำ..."
(J.D. Salinger, จะเป็นผู้คอยรับไว้ ไม่ให้ใครร่วงหล่น
The Catcher in the Rye, ไลต์เฮ้าส์พลับลิชชิ่ง)
The Catcher in the Rye, ไลต์เฮ้าส์พลับลิชชิ่ง)
โฮลเดนมองทุกคนว่าเฟกไปเสียหมด
หาเรื่องตำหนิติติงได้ทุกสิ่ง
แต่ทว่าท่ามกลางเรื่องราวประชดประชัน
มองโลกในแง่ลบของโฮลเดน
มันก็มีแง่มุมดีๆ แฝงอยู่ โฮลเดนโดยเนื้อแท้เป็นคนจิตใจดีนะ
เขามีความคิดดีๆ มีใจช่วยเหลือผู้อื่น
และเขาก็รักน้องเหลือเกิน ทั้งอัลลีผู้ล่วงลับ และฟีบีจอมแสบ
จุดนี้ทำให้เรามองโฮลเดนว่าเป็นคนน่ารัก เป็นพี่ที่ดี
แล้วก็ได้ฟีบีเนี่ยแหละที่จี้จุดโฮลเดน
ว่าตัวเขาน่ะไม่ชอบอะไรหรือใครเลย
(บางทีฟีบีอาจจะลืมนับตัวเองไป เพราะโฮลเดนน่ะชอบฟีบีนะ...คิดว่า)
เสน่ห์อีกอย่างของเรื่องนี้ก็น่าจะเป็น
การที่พ่อเจ้าประคุณโฮลเดนสอบตกหมดทุกวิชา
แต่ดันสอบผ่านอยู่วิชาเดียว คือวรรณคดี
แล้วก็อ่านหนังสือเยอะเหมือนกันนะ
ตัวละครที่ชอบหนังสือ ในหนังสือ เราชอบ
หลังจากใช้ชีวิตคนเดียวอยู่หลายวัน
พบเจอทั้งเรื่องดีและร้ายระหว่างทาง
สุดท้ายโฮลเดนก็ตัดสินใจไปพบฟีบีน้องสาวตัวแสบ
ไม่น่าเชื่อว่าเด็กน้อยอย่างฟีบี จะเป็นคนที่ยื่นมือมาช่วยโฮลเดนโดยไม่ตั้งใจ
และตั้งใจ "ฟัง" เขามากกว่าคนอื่นๆ
ถ้าคุณอ่านผ่านมาจนได้รู้จักกับสาวน้อยคนนี้
ก็มีโอกาสเป็นไปได้สูงว่า คุณจะตกหลุมรักเธอ
สรุปความรู้สึกโดยรวมต่อ "จะเป็นผู้คอยรับไว้ ไม่ให้ใครร่วงหล่น"
แบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรกจะเบื่อ และรำคาญ
ต่อความหดหู่ และความคิดติดลบ อารมณ์แปรปรวนของโฮลเดน
แต่ก็ตามเผือกชีวิตพ่อเจ้าประคุณต่อ เพราะยิ่งอ่าน
ยิ่งอยากรู้ว่ามันจะไปจบลงที่ตรงไหน
ไม่ได้แย่ ไม่ได้ประทับใจมาก แต่น่าสนใจ
แล้วก็มาประทับใจเอาช่วงท้าย รวมถึงตอนจบ
เราชอบที่มันจบลงแบบนั้น
"คนอื่นมักจะเครื่องติดและอยากพูดคุย
ตอนที่คุณไม่ค่อยอยู่ในอารมณ์เสมอ"
(J.D. Salinger, จะเป็นผู้คอยรับไว้ ไม่ให้ใครร่วงหล่น
The Catcher in the Rye, ไลต์เฮ้าส์พลับลิชชิ่ง)
Comments
Post a Comment