หญิงสาวในแสงตะวัน by Osamu Koshigaya - เรื่องรักอบอุ่นกรุ่นไอแดด

"แล้วโคสุเกะรู้สึกเศร้าหรือเปล่าที่ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้พันปี"
- มาโอะ (Osamu Koshigaya, หญิงสาวในแสงตะวัน, น. 233)


"หญิงสาวในแสงตะวัน"
ผู้เขียน: โอซามุ โคชิงายะ (Osamu Koshigaya)
ผู้แปล: น้ำทิพย์ เมธเศรษฐ
สนพ. ซันเดย์ อาฟเตอร์นูน, พิมพ์ครั้งที่ 1, มีนาคม 2558

         "หญิงสาวในแสงตะวัน" เล่มนี้เพื่อนให้มาเป็นของขวัญวันเกิด ลัดคิวเอามาอ่านก่อนเพราะคิดว่าผู้ให้ตั้งใจให้มาแล้ว เราก็ควรจะสนองเจตนาอันดีของเขาเสียหน่อยด้วยการอ่านภายในปีที่ได้มา จริง ๆ เคยเล็ง ๆ จะซื้ออยู่เหมือนกัน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ซื้อสักที ได้มาเป็นของขวัญอย่างนี้จะนับว่าเป็นพรหมลิขิตได้ไหมนะ

          โคสุเกะ และมาโอะคู่หูคู่แปลก (แยก) สมัยม. ต้นกลับมาเจอกันอีกครั้งหลังจากแยกจากกันไปนับสิบปี ได้พบกันอีกครั้งคราวนี้โคสุเกะต้องประหลาดใจกับการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ของมาโอะ เธอไม่ใช่เด็กโง่ที่หารเลขไม่เป็นคนที่เขาต้องติวพิเศษให้อีกต่อไปแล้ว แถมยังกลายเป็นสาวสวยน่ารัก มากความสามารถในการเจรจาธุรกิจ ด้วยโอกาสจากหน้าที่การงานทำให้โคสุเกะมีโอกาสได้เข้าใกล้มาโอะ และพัฒนาความสัมพันธ์จนลึกซึ้ง ในขณะเดียวกันก็นำพาโคสุเกะให้เข้าไปใกล้กับอดีตอันลึกลับของมาโอะมากขึ้นเช่นกัน

          การพบกันที่ดูเหมือนจะเกิดจากพรหมลิขิต ทำให้โคสุเกะและมาโอะมาพบและรักกัน แม้พ่อแม่ของมาโอะจะไม่ค่อยเห็นด้วยนักกับการคบหากันของทั้งสองคนด้วยเหตุผลเกี่ยวกับอดีตของมาโอะ แต่พวกเขาก็ยังยืนยันจะอยู่ด้วยกัน และตัดสินใจหนีตามกันในที่สุด แม้จะเรียกว่าการหนีตามกัน แต่ก็ดูจะเป็นการหนีตามกันที่มีความสุขที่สุด ทั้งคู่ยังกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ของมาโอะตามปกติ เพียงแค่ไม่ได้จัดงานแต่งงานเท่านั้น แต่อดีตของมาโอะคือสิ่งที่รบกวนจิตใจของโคสุเกะ แล้วยังพฤติกรรมและอาการแปลก ๆ ของมาโอะในช่วงหลัง ๆ ล้วนแต่ทำให้เขาหวั่นใจ

          หลังจากอ่านจบก็ถึงกับต้องรีบไลน์ไปขอบคุณเพื่อนซ้ำอีกทีที่ซื้อหนังสือเล่มนี้ให้ (และขอบคุณร้าน Candide ด้วยที่แนะนำเรื่องนี้ให้เพื่อนซื้อ) ชอบมาก ดีมาก ไม่ได้เจอหนังสือที่ทำให้ร้องไห้ได้ขนาดนี้มานานแล้ว เดินเรื่องในบรรยากาศอบอุ่น อบอวลไปด้วยความรักของหนุ่มสาว ความสัมพันธ์ที่มีรากฐานผูกพันกันมาตั้งแต่มัธยมต้น แม้ในระหว่างนั้นจะแยกจากกันแต่สายใยของทั้งคู่กลับเกาะเกี่ยวยึดโยงกันไว้อย่างแน่นหนา เมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้งความผูกพันแปรเปลี่ยนเป็นความรักอย่างลึกซึ้ง แต่ขณะกำลังเคลิบเคลิ้มกับความรักความเอาใจใส่ของทั้งคู่ อยู่ ๆ ผู้เขียนก็กระชากให้เราตกดิ่งลงมาจากที่สูงด้วยประโยคเพียงประโยคเดียวท้ายบทที่ 5

          ท่ามกลางความโรแมนติก และอุบอุ่นของเรื่องราว ผู้เขียนก็แทรกปมลึกลับสะกิดใจเราให้เดาและกังวลไปต่าง ๆ นา ๆ สลับกับอารมณ์ขันนิด ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างในเรื่องไม่มากไป หรือน้อยเกิน ธีมของเรื่องให้ความรู้สึกเหมือนแสงแดดอ่อน ๆ อบอุ่นในหน้าหนาว ความร้ายกาจอีกอย่างของ Osamu Koshigaya คือเขาทิ้งคำใบ้ไว้ตลอดเรื่อง ส่งสัญญาณอยู่หลายครั้ง แต่เรากลับหลงไปอีกทาง เดาทุกอย่างผิดหมด ไปรู้ความจริงเอาพร้อม ๆ กับโคสุเกะ และเมื่อวางใจว่าคงจบไปแบบนั้นแล้ว ก็ถูกดึงกระชากกลับขึ้นมาให้ประหลาดใจได้อีก

"ชีวิตคนเราแสนสั้น ไม่ทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำก็ขาดทุนน่ะสิ"
- มาโอะ (น. 163)

          ความรักของมาโอะนั้นทุ่มเทและมากมายจริง ๆ นับตั้งแต่ที่โคสุเกะช่วยเธอไว้ "ครั้งแรก" มาโอะก็คงมอบหัวใจให้และตามหาเขามาโดยตลอด เธอฝังประทับตัวเองเข้าไปในใจของโคสุเกะอย่างช้า ๆ และเพราะความเป็นเด็กถือทิฐิเมื่อสมัยม. ต้นทำให้โคสุเกะเกือบจะพลาดปล่อยเธอหลุดมือไปตลอดกาล แต่เพราะมาโอะที่ไม่เคยยอมแพ้ หรือลังเลที่จะหาหนทางให้ได้อยู่ร่วมกับคนที่รัก พวกเขาจึงได้กลับมาพบกันอีกครั้ง และใช้ช่วงเวลาที่ได้อยู่ร่วมกันอย่างคุ้มค่าที่สุด

          แล้วพวกเราล่ะ ในแต่ละวันที่ผ่านไปได้พยายามทำให้ทุกวันเป็นช่วงเวลาพิเศษและคุ้มค่าที่สุดแล้วหรือยัง?

          นิยายเรื่องนี้เคยถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์เมื่อปี 2013 ในชื่อเรื่อง Girl in the Sunny Place (陽だまりの彼女, Hidamari No Kanojo) นำแสดงโดย Jun Matsumoto แห่งวง Arashi และ Juni Ueno อยากดูจัง ไม่รู้จะหาดูได้อยู่ไหม

โปสเตอร์ Girl in the Sunny Place

ตัวอย่างหนัง

Comments

Popular posts from this blog

[Spoiler Alert] เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) สปอยล์แหลกตามคำขอของน้อง

เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) หนังสือดีๆ อีกเล่มที่อยากแนะนำให้อ่าน

ลำนำรักเทพสวรรค์ ภาค หนึ่งคำมั่น สัญญานิรันดร์ (Promise Me a Forever)