The First Phone Call from Heaven - สายตรงจากสวรรค์

"I never said good-bye."
"Such a needless word," she said, "when you love somebody"

(Mitch Albom, the first phone call from heaven, Sphere Publishing, p. 292)

ภาพจาก goodreads.com

'The First Phone Call from Heaven'
ผู้เขียน: Mitch Albom
Published by Sphere, 2014


          วันนั้นเป็นวันธรรมดาเหมือนทุก ๆ วัน ใน Coldwater เมืองเล็ก ๆ ใน Michigan วันที่เริ่มมีเสียงกริ่งโทรศัพท์ของสายเรียกเข้าจากบุคคลอันเป็นที่รักผู้ล่วงลับไปแล้ว คน 8 คนได้รับสายจากผู้ที่อยู่บนสวรรค์ ความปลาบปลื้มยินดี ความคิดถึงคนึงหาเต็มล้นในหัวใจของพวกเขา แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ยินดีกับสายเรียกเข้าจากสวรรค์ เมื่อ Katherine Yellin 1 ใน 8 คนเปิดเผยเรื่องนี้ออกมาในโบสถ์ของเมือง และสื่อมาทำข่าวและเสนอเรื่องราวนี้ออกไป ทุกความสนใจมุ่งมายัง Coldwater และกลุ่มคนที่ได้รับสายจากญาติผู้ล่วงลับทันที โทรศัพท์มือถือฝาพับสีชมพูธรรมดา ๆ แบบเดียวกับที่ Katherine ใช้กลายเป็นที่ต้องการของตลาดสูงที่สุดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะผู้คนหวังจะได้รับสายจากญาติมิตรที่อยู่บนสวรรค์และเชื่อว่าปาฏิหาริย์อาจเกิดขึ้นกับมือถือรุ่นนี้ ต่างพากันหลั่งไหลเข้ามาสู่ Coldwater ด้วยความหวังและศรัทธาที่เต็มเปี่ยม ทว่าไม่ใช่ทุกคนที่เชื่อเรื่องปาฏิหาริย์นี้ Sully Harding สูญเสียงาน อนาคตหลังจากอุบัติเหตุขับเครื่องบินเมื่อหลายเดือนก่อน เขาติดคุกอยู่ขณะที่ภรรยาเสียชีวิต Sully สูญเสียศรัทธาและโกรธเคืองพระเจ้าที่โหดร้ายกับเขาเหลือเกิน และเมื่อเรื่องโทรศัพท์จากสวรรค์ทำให้ลูกชายคนเดียวของเขาเกิดความหวังว่าแม่ยังไม่ตาย และจะโทรหาเขา Sully ก็รู้สึกว่าเขาต้องลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อพิสูจน์ว่าเรื่องทั้งหมดนี้ไม่เป็นความจริง ต้องเป็นฝีมือของใครสักคนที่เล่นตลกกับความหวังของคน เพื่อลูกของเขา หรืออาจจะเพื่อตัวของเขาเอง...

          What happened next depends on how much you believe. - Mitch Albom (p. 5)

          หากว่ามีโอกาสได้คุยกับผู้ที่จากไปแล้ว และเราต่างก็เชื่อว่าพวกเขาจะไม่มีวันหวนกลับ คุณจะคว้าโอกาสนั้นไว้ไหม? หากเลือกได้คุณจะรับสายจากผู้ล่วงลับหรือเปล่า?

          เราชอบพล็อตนะ เดินเรื่องดี ประเด็นในเรื่องก็น่าสนใจ การรับมือกับความสูญเสียจากการจากไปของบุคคลอันเป็นที่รัก หรือคนใกล้ตัวเราน่าจะเป็นเรื่องที่รับมือได้ยากที่สุดในชีวิตคนเรา ต่างคนก็ต่างมีวิธีในการเยียวยาต่างกันไป

          เรื่องจะตัดสลับไปมาระหว่างตัวละครหลายตัว แต่ต่อเนื่องดี ไม่ทำให้หัวหมุนหรือตามเรื่องไม่ทัน ตอนแรก ๆ ก็ดูเหมือนเรื่องราวจะดำเนินไปเรียบ ๆ และส่งคำถามออกมาถึงผู้อ่านว่าคุณเชื่อเรื่องนี้ไหม พอ Sully เริ่มมีบทบาทขึ้นมามากขึ้นเรื่องจะเริ่มสนุกขึ้น และลุ้นมากขึ้นกับปมของเรื่อง สลับกับเรื่องราวการประดิษฐ์โทรศัพท์ของ Alexander Graham Bell และปูมหลังเหตุการณ์เลวร้ายในชีวิตของ Sully ที่ค่อย ๆ เปิดเผยออกมา แถมด้วยความรัก ความผูกพันที่เกิดขึ้นโดยมีสายโทรศัพท์ปาฏหาริย์เป็นสื่อกลางชักโยงให้เกิดขึ้น โรแมนติกและซึ้งไม่เบา

          สำหรับเราลองนึกดูเล่น ๆ ก็น่าจะดีไม่น้อย หากยังมีโอกาสได้ติดต่อพูดคุยกับบุคคลอันเป็นที่รักที่ลาจากกันไป แต่เอาเข้าจริง ๆ คนกลัวผีขึ้นสมองอย่างเราน่าจะกรี๊ดบ้านแตกเขวี้ยงโทรศัพท์ทิ้งมากกว่าจะทรุดตัวลงน้ำตาไหลพรากด้วยความคิดถึง ก็แหม คนตายนะคุณ มันก็อยู่คนละโลกกันแล้ว ต่างคนต่างอยู่กันน่าจะดีกว่ามั้ง ความคิดถึงก็ให้มันอยู่ในใจ ในความทรงจำ เราเห็นด้วยกับ Doreen ตัวละครตัวหนึ่ง เธอเสียลูกชายไปในสงคราม ในช่วงชีวิตของคนเรานั้นมีพบ ก็ต้องมีจาก เมื่อมีการทักทาย ย่อมมีการบอกลา มันคือสัจธรรมของชีวิต "There is a time for hello and a time for good-bye.  It's why the act of burying things seems natural, but the act of digging them up does not." (p. 168) การติดอยู่ในห้วงทุกข์แห่งความสูญเสีย หรือการคว้ายึดเศษเสี้ยวของผู้เสียชีวิต เหนี่ยวรั้งไว้ไม่ปล่อยไป ไม่ได้ช่วยให้คนตายแล้วฟื้นขึ้นมา คนที่ยังอยู่คือผู้ที่เราควรใส่ใจและหันมาดูแล เหมือนอย่างที่พี่โหน่ง วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ เคยเขียนไว้ใน Day After Day ตอนหนึ่งว่า “การสูญเสียสิ่งที่รักเป็นเรื่องหนักหนา…แต่ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะไปจมปลักอยู่กับความทุกข์เศร้า" คนตายจากไปแล้ว คนที่อยู่ก็ยังต้องอยู่และเดินหน้าต่อไป ใช้ชีวิตให้ดีเพื่อตัวเอง เพื่อผู้ที่ยังอยู่ และแทนผู้ที่จากไป เพราะเราว่าสุดท้ายแล้วก็คนเป็น ๆ ด้วยกันเนี่ยแหละที่จะเยียวยาและรักษาบาดแผลจากการสูญเสียได้ไม่มากก็น้อย

Comments

Popular posts from this blog

[Spoiler Alert] เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) สปอยล์แหลกตามคำขอของน้อง

เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) หนังสือดีๆ อีกเล่มที่อยากแนะนำให้อ่าน

ลำนำรักเทพสวรรค์ ภาค หนึ่งคำมั่น สัญญานิรันดร์ (Promise Me a Forever)