เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) หนังสือดีๆ อีกเล่มที่อยากแนะนำให้อ่าน

"สิ่งสำคัญนั้นไม่อาจเห็นได้ด้วยตา"
- อองตวน เดอ แซงเตก-ซูปรี, เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince)



"เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince)"
ผู้เขียน: อองตวน เดอ แซงเตก-ซูเปรี (เรื่องและภาพประกอบ)
ผู้แปล: อำพรรณ โอตระกูล
สนพ. บริษัทเรือนปัญญา 2010 จำกัด
พิมพ์ครั้งที่ 26 (ฉบับครบรอบ 60 ปี)

          อ่านเรื่องนี้จบไปเมื่อสามปีที่แล้ว (จำได้เพราะดูจากแอปฯ timehop) อ่านจบแล้วก็ลืมเรื่องไปหมดละ จนน้องมาขอให้เขียนบล็อกสปอยล์ให้หน่อย ก็เลยไปหยิบมาอ่านใหม่อีกรอบ จนคลอดออกมาเป็นบล็อกสปอยล์เล่าเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ (แบบย่อความแล้วนะ) 

          ด้วยความที่เล่าเรื่องอย่างเดียวเนื้อหาในบล็อกนั้นก็ยาวมากแล้ว บวกกับไม่อยากไปแทรกอะไรระหว่างเรื่อง เลยแยกบล็อกนี้ออกมาต่างหากเพื่อเขียนถึงบางจุดที่อ่านแล้วประทับใจสักหน่อย และเผื่อว่าอาจจะมีใครอยากอ่านแบบสปอยล์น้อยหน่อยเพื่อตัดสินใจว่าจะหาเจ้าชายน้อยมาอ่าน หรือคนที่ยังไม่คิดจะอ่านอาจจะอยากเปลี่ยนใจไปลองอ่านดู

          เจ้าชายน้อยคือบันทึกเรื่องราวการพบกันของผู้เขียน กับเด็กชายตัวน้อยผู้มาจากดาวดวงอื่น ทั้งสองบังเอิญเจอกันในทะเลทรายซาฮารา เครื่องบินของผู้เขียนไปตกที่นั่น เจ้าชายน้อยเองก็จับพลัดจับผลูไปโผล่ในทะเลทรายเมื่อเดินทางมาเยือนโลก เจ้าชายน้อยมาจากดาวบี 612 เขาตัดสินใจหนีจากดอกกุหลาบที่เขารักมาเพราะว่าเธอนั้นโอ้อวดหลงตน ความจู้จี้จุกจิกของเธอทำให้เขาทรมาน เมื่อเขาจากมา เจ้าชายน้อยท่องเที่ยวไปตามดวงดาวต่างๆ พบผู้คนมามากมาย แต่ก็ยังไม่เจอใครที่จะเขาจะคบหาเป็นเพื่อนได้เลย ในที่สุดเขาก็เดินทางมายังโลกมนุษย์ และมาพบกับผู้เขียน ทั้งสองกลายเป็นเพื่อนกันในช่วงที่ติดอยู่ในทะเลทราย ผู้เขียนค่อยๆ รับรู้เรื่องราวการเดินทางของเจ้าชายน้อยผ่านการสนทนากัน ผ่านไป 6 ปีเขาก็ตัดสินใจรวบรวมเรื่องราวของเจ้าชายน้อยมาเขียนลงบันทึกเพื่อจะได้ไม่ลืมเพื่อนคนสำคัญคนนี้

          หลักใหญ่ใจความที่โดดเด้งประทับใจเราก็คือเรื่องของ "ความสัมพันธ์" เมื่อเจ้าชายน้อยพบว่าดอกไม้แสนสวยที่เขาเฝ้าดูแลไม่ได้ดีพร้อมอย่างที่เขาคิด เธอใช้คำพูดร้ายกาจเอาแต่ใจขัดกับรูปลักษณ์สวยงามภายนอก เขาก็เลือกที่จะหนีจากเธอมาเพื่อค้นหาเพื่อนใหม่ และเรียนรู้สิ่งต่างๆ แต่แน่นอนว่าระหว่างการเดินทางสุดท้ายเขาก็เสียใจที่เดินทางจากมา ดอกไม้เองแม้จะรู้ว่าการที่เจ้าชายน้อยจากมาเป็นเพราะตน แต่สิ่งสุดท้ายที่เธอพูดก็ยังคงเป็นการออกปากไล่เพื่อให้เขาจากมาโดยไม่ต้องเห็นน้ำตาของเธอ "อย่ามัวชักช้าร่ำไรอยู่เลย น่ารำคาญออกในเมื่อเธอตัดสินใจจะไปแล้วก็ไปเสีย " (อองตวน เดอ แซงเตก-ซูปรี, เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince), หน้า 51) ทำไมเธอไม่บอกกับเขาตรงๆ ว่าไม่อยากให้เขาไปล่ะ ทำไมต้องทำเป็นเข้มแข็งแล้วสุดท้ายก็เสียใจกันทั้งสองฝ่าย? บ่อยครั้งที่เราก็เผลอทำร้ายทำลายน้ำใจคนที่รักและใส่ใจเราด้วยคำพูดไม่กี่คำ หรือการกระทำบางอย่าง บางทีคนเราก็ทำอะไรให้มันยากไปปเองนะถ้าเป็นเรื่องของความสัมพันธ์น่ะ ว่าไหม?

          เมื่อเจ้าชายน้อยไปพบสวนกุหลาบ เขาช็อกมากกับภาพที่เห็น ดอกกุหลาบของเขาบนดาวบี 612 เคยอวดอ้างเอาไว้ว่าเธอเป็นเพียงหนึ่งเดียวในจักรวาล หากเธอมาเห็นสวนดอกไม้แห่งนี้ คงอายแทบมุดแผ่นดินหนีทีเดียว ภาพที่เห็นตรงหน้าสร้างความสะเทือนใจให้เจ้าชายน้อยมากโข "ฉันเข้าใจเอาว่าฉันนี้ร่ำรวยเพียงเพราะเป็นเจ้าของดอกไม้ดอกเดียวในโลก แต่อันที่จริงฉันมีเพียงดอกกุหลาบธรรมดาเพียงดอกหนึ่งเท่านั้นกับภูเขาไฟอีกสามลูกซึ่งสูงเพียงหัวเข่าของฉัน และภูเขาไฟลูกหนึ่งดูเหมือนจะดับตลอดกาล ก็เท่านั้นเอง ซึ่งมันไม่ได้ทำให้ฉันกลายเป็นเจ้าชายที่สำคัญใหญ่โตอะไรเลย" (อองตวน เดอ แซงเตก-ซูปรี, เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince), หน้า 91) ชอบข้อความนี้มาก สุดท้ายแล้วคนเราก็เท่ากัน การมีอะไรมากกว่า ยศฐาบรรดาศักดิ์สูงกว่า เป็นเน็ตไอดอล เซเลบ ฯลฯ ไม่ได้ทำให้เรามีความสำคัญ หรือมีตัวตนคงอยู่ อย่างเซเลบในโลก social network สุดท้ายพอออกมาจากโลกไซเบอร์ก็กลายเป็นแค่ nobody คนหนึ่งที่ไม่มีใครรู้จัก อย่าไปยึดติดกับความจอมปลอมของวัตถุที่ครอบครอง หรือตำแหน่งหน้าที่ที่มี สิ่งที่ทำให้เรามีคุณค่าคือความคิด การกระทำ และจิตใจ

          แต่แล้วไม่ช้าเขาก็ได้เรียนรู้บางอย่างจากสุนัขจิ้งจอกทะเลทราย มันสอนให้เจ้าชายน้อยฝึกมันให้เชื่อง ให้เจ้าชายน้อยได้เรียนรู้การ "สร้างความสัมพันธ์" ได้รู้จักการเป็นหนึ่งเดียวในโลกของกันและกัน "ถ้าฉันยังไม่เชื่อง สำหรับฉันในตอนนี้เธอก็เป็นแค่เด็กชายคนหนึ่งเหมือนเด็กชายทั่วไป และสำหรับเธอฉันก็เป็นแค่สุนัขจิ้งจอกทั่วๆ ไป แต่ถ้าเราสร้างสัมพันธ์กัน เธอก็จะเป็นเด็กชายของฉัน และฉันก็จะเป็นสุนัขจิ้งจอกของเธอ" พอฝึกสุนัขจิ้งจอกจนเชื่องแล้ว ไม่นานก็ถึงเวลาต้องจากกัน สุนัขจิ้งจอกร้องไห้ เจ้าชายน้อยก็ตัดพ้อว่าเธอไม่น่าให้ฉันทำให้เธอเชื่องเลย เพราะสุดท้ายเธอก็ไม่เหลืออะไร ใครว่าล่ะ สุนัขจิ้งจอกแย้ง เขาได้ภาพความทรงจำถึงเจ้าชายน้อยประทับอยู่ในใจแล้วต่างหาก และนั่นน่าจะเป็นสิ่งที่หลงเหลืออยู่ในทุกความสัมพันธ์ "ความทรงจำ" แม้ว่าสุดท้ายต้องจากกัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เหลืออะไรเลย จริงไหม? 

          เจ้าชายน้อยกลับไปยังสวนกุหลาบอีกครั้งตามคำขอของสุนัขจิ้งจอก คราวนี้เขาค้นพบบางอย่างเพิ่มขึ้นอีก เขารู้แล้วว่าดอกกุหลาบของเขามีเพียงดอกเดียวในจักรวาลจริง ดอกไม้หลายร้อยดอกตรงหน้าไม่ได้มีความหมายใดๆ กับตัวเขาเลย เพราะเขาไม่ได้มีความผูกพันกับพวกหล่อน ไม่เหมือนดอกไม้ของเขาบนดาวบี 612 ก่อนลาจากกับสุนัขจิ้งจอก สุนัขจิ้งจอกก็บอกความลับบางอย่างกับเจ้าชายน้อยซึ่งเขาก็ท่องจำไว้อย่างดี....

          ในทุกการเดินทางย่อมมีจุดสิ้นสุดของมัน การเดินทางค้นหาเพื่อนและเรียนรู้สิ่งต่างๆ ของเจ้าชายน้อยก็เช่นกัน เมื่อเวลามาถึงเขาก็ต้องกลับไปยังดวงดาวของเขา ไปหาดอกไม้ของเขา หากแต่ด้วยวิธีใดล่ะ?...

          เป็นหนังสือดีที่ทุกคนควรอ่านนะ นอกจากเนื้อเรื่องที่ลึกซึ้งกินใจ ภาพประกอบในเล่มก็มีเสน่ห์ดี จริงๆ ตอนน้องขอให้สปอยล์ก็ไม่อยากจะสปอยล์เท่าไร อยากให้ไปอ่านหนังสือเอง อ่านจากเล่มจริงเอาเองก็จะได้มุมมองของตัวเอง เราเชื่อว่าแต่ละคนถึงแม้จะอ่านหนังสือเล่มเดียวกัน แต่อารมณ์และมุมมองของแต่ละคนต่อเนื้อหาย่อมต่างกัน และการอ่านจากต้นฉบับเองน่าจะเก็บเนื้อหาได้ครบและละเอียดกว่าให้เราสปอยล์ แต่ก็พอเข้าใจนะ บางครั้งเราก็หาอ่านสปอยล์ของหนังตามเว็บเหมือนกัน โดยเฉพาะพวกหนังผี ไม่กล้าดูเอง แค่ได้อ่านสปอยล์ก็พอละ สบายใจ 5555 ก็เลยตัดสินใจทำตามคำขอของน้องสปอยล์ให้อ่าน ไม่แน่นะ อ่านสปอยล์แล้วเกิดติดใจ สุดท้ายนางอาจจะไปหามาอ่านเอง

          การเดินทางของเจ้าชายน้อยน่าจะให้บทเรียนดีๆ กับคนที่ได้อ่าน และเราก็อยากให้คนที่เรารักทุกคนได้อ่าน "...และเธอต้องรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่เธอมีความสัมพันธ์ด้วย" (อองตวน เดอ แซงเตก-ซูปรี, เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince), หน้า 100) 

สำหรับคนอยากอ่านสปอยล์:

Comments

Popular posts from this blog

[Spoiler Alert] เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) สปอยล์แหลกตามคำขอของน้อง

ลำนำรักเทพสวรรค์ ภาค หนึ่งคำมั่น สัญญานิรันดร์ (Promise Me a Forever)