ซามูไรสีม่วง - รักต้องห้ามข้ามชนชั้นของสองหนุ่มยุคศักดินา

"สำหรับสองหนุ่ม ความรักความใคร่ใหลหลงต่อกัน
จริงแท้และบริสุทธิ์
ไม่ต่างไปจากความรักระหว่างบุรุษกับสตรี"
(Rei Kimura, ซามูไรสีม่วง, สนพ. กำมะหยี่)


"ซามูไรสีม่วง (Japanese Magnolia)"
ผู้เขียน: Rei Kimura
ผู้แปล: นพดล เวชสวัสดิ์
สนพ. กำมะหยี่, พิมพ์ครั้งที่ 1, มกราคม 2544

อันว่าเรื่องราวรักข้ามชนชั้นย้อนยุคนั้นก็ว่าน่าสนใจแล้ว
ซามูไรสีม่วง นี้ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นไปอีกด้วยเป็นเรื่องราวรักต้องห้าม
ที่ไม่เพียงแต่ข้ามชนชั้น
หากแต่ยังเป็นรักระหว่างชายกับชาย
ซึ่งถือเป็นเรื่องวิบัติเลวร้ายเกินรับได้ในยุคเอโดะ

"ภาพฝันวาบหวามที่ตราตรึงในใจ
นับแต่วันแรกที่ได้พบเห็นหน้า"
(Rei Kimura, ซามูไรสีม่วง, สนพ. กำมะหยี่)

แรกพบสบตาเมื่อเจอหน้าเธอ
ครุ่นคิดไม่วายไม่คลายสับสน...
น่าจะเป็นเพลงที่เหมาะกับฉากการพบกันครั้งแรกของฟูซาโอะ เด็กหนุ่มชาวนา
กับเจ้านายน้อยเหนือหัว ซามูไรหนุ่ม โอกิโมโตะ โนบุนางะ
 เมื่อมหาซามูไรเกิดให้ความสนใจกับเด็กหนุ่มชาวนาที่เขียนหนังสือได้
และมุ่งมาเยือนถึงบ้านพร้อมบุตรชาย เพียงเพื่อสั่งให้เขาเขียนหนังสือให้ดู
การพบปะในชั่วเวลาไม่กี่นาที กับการประสานสายตาแค่เพียงครู่
นำมาซึ่งความรักลึกซึ้ง และโศกนาฏกรรมที่ถูกปกปิดมานานหลายร้อยปี
แต่เรื่องราวรักต้องห้ามนี้กำลังจะถูกเปิดเผยผ่านการสืบค้นประวัติของตระกูล
มายูมิ นักประวัติศาสตร์สาวที่ถูกว่าจ้างโดยทายาทของตระกูลมหาซามูไรผู้ยิ่งใหญ๋
ให้แปลความบันทึกในม้วนกระดาษโบราณที่สืบทอดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน
โดยเชื่อว่าเป็นข้อความที่เขียนโดยผู้นำของตระกูล
เมื่อบันทึกนั้นไม่ใช่เรื่องราวความยิ่งใหญ่ของตระกูลอย่างที่ผู้ว่าจ้างคิด
หากแต่เป็นความในใจซ่อนเร้นของรักต้องห้ามต่างชนชั้น
งานสืบค้นครั้งนี้ไม่ใช่งานหมูๆ เสียแล้ว

หลังจากรหัสลับ เกเก้วินชี
ซามูไรสีม่วง หรือ Japanese Magnolia เป็นผลงานลำดับที่สองในชุดหนังสือสีม่วง
ซึ่งเนื้อหาเรื่องราวนั้นแตกต่างกันคนละขั้วเลยทีเดียว
ในรหัสลับ เกเก้วินชีนั้นออกจะไปทางแนวตลก เสียดสี
แต่ซามูไรสีม่วงนั้นโรแมนติก - ดราม่า-โศกนาฏกรรม
ผู้เขียนพาเราย้อนกลับไปในยุกศักดินาเมื่อประมาณ 3 - 4 ร้อยปีก่อนของญี่ปุ่น
ยุคสมัยที่ชนชั้นปกครองมีอำนาจล้นฟ้า เพศชายคือผู้นำ และมีสิทธิขาดในทุกเรื่อง
หากแต่โอกิโมโตะ โนบุนางะ บุตรชายและทายาทเพียงคนเดียวของมหาซามูไร
มิได้รับสืบทอดความเด็ดเดี่ยว เข้มแข็งเยี่ยงซามูไรมาจากบิดาเท่าที่ควร
ชายหนุ่มหน้าสวยหวานรูปงาม หากแต่ยังคงครองตัวเป็นโสด บ่ายเบี่ยงการแต่งงานเรื่อยมา
ข่าวลือหนาหูว่าบุตรชายของมหาซามูไรผู้นี้นิยมชมชอบเด็กหนุ่มมากกว่าหญิงสาว

ฟูซาโอะ เด็กหนุ่มชาวนา ผู้ระทมขมใจกับการถูกบิดาบังคับให้แต่งงาน
เปล่าเลย เขาไม่ได้ทุกข์ใจเพราะถูกคลุมถุงชน
แต่เป็นเพราะเขาไม่อยากแต่งงานกับผู้หญิงต่างหาก
เมื่อความสามารถในการเขียนหนังสือของฟูซาโอะไปเข้าหูของมหาซามูไรโนบุนางะเข้า
ก่อเกิดความสนใจ และชักนำให้โอกิโมโตะ กับฟูซาโอะมาพบกัน
หลังจากได้พบสบตาแค่เพียงครั้งเดียว
ฟูซาโอะ ก็พบว่าเขาตกหลุมรักเจ้านายน้อยอย่างถอนตัวไม่ขึ้น

"ฟูซาโอะทราบเรื่องนี้เมื่ออายุได้ 16 ปี
เพื่อนว่าจ้างโสเภณีมาเต้นระบำยั่วยวน
กลุ่มเด็กหนุ่มตาลอยปากอ้าค้าง ยูคาตะเนื้อบางปูดเป่งเป็นลำ
ฟูซาโอะไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่มีการตอบสนองทางร่างกาย 
ไม่มีไฟอารมณ์เผาผลาญในอก...ไม่มีอะไรเลย
แต่เมื่อเด็กอายุมากที่สุกแหวกยูคาตะ 
เผยพลังพลายกวัดแกว่งฉิวเฉียด
เรือนร่างนุ่งน้อยห่มน้อยของนางงามเมือง
หนั่นเนื้อกำยำล่ำสันนั่นเอง
ที่ทำให้ฟูซาโอะลุกชูชันเหมือนมีไฟในท้องน้อย"
- ฟูซาโอะ
(Rei Kimura, ซามูไรสีม่วง, สนพ. กำมะหยี่)

เร คิมูระ ถ่ายทอดความรัก ความวาบหวามระหว่างสองหนุ่มออกมาได้ดี
อ่านแล้วจิ้นกระจาย คิดว่าสาววายคงจะจิกหมอนรัวๆ
ฉากเลิฟซีนใส่รายละเอียดมาพอให้จิ้น ฟินเบาๆ ไม่ลงรายละเอียดลึกจนเกินควร
อ่านแล้วโรแมนติก มากกว่าจะอิโรติก
ทำให้ผู้เริ่มอ่านนิยายรักวาบหวามของเพศที่ 3 อย่างเราไม่รู้สึกเคอะเขิน
หรือตะขิดตะขวงกับการอ่าน
แต่เนื้อเรื่องบางช่วงบางตอน อ่านแล้วรู้สึกขัดๆ กันอยู่บ้าง
อย่างการค้นพบรู้ตัวในรสนิยมทางเพศของสองหนุ่ม
การบอกเล่าในช่วงแรกกับช่วงหลังรู้สึกว่าช่วงเวลามันขัดแย้งกันนิดหน่อย
หรืออ่านแล้วงงลำดับเองเวลาก็ไม่รู้นะ ด้วยความไม่แน่ใจ เลยปล่อยผ่าน
ไม่ได้จดบันทึกมาเขียนเปรียบเทียบให้เห็นชัด ต้องขออภัย
แต่โดยรวมสนุกดี อ่านแล้วชอบ ลุ้นตัวโก่งกับความรัก ความลับของทั้งสองหนุ่ม
สะทกสะท้อนไปกับความเศร้า ความอึดอัดคับข้องเจ็บปวดใจของฟูซาโอะ
ความรักข้ามชนชั้นนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะจบลงเอยด้วยความสุขสมหวัง
นี่ยังเป็นความรักระหว่างชายกับชายที่ในยุคสมัยนั้นถูกมองว่าเป็นเรื่องชั่วร้าย
วิปริต ต่ำทรามเยี่ยงสัตว์
โอกิโมโตะ และฟูซาโอะนั้นยิ่งแทบไม่มีหวังเลยที่จะได้รักลงเอยอยู่เคียงกัน
ความรักที่รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีวันเป็นไปได้ และสุดท้ายยังไงก็ต้องจบลง
แต่พวกเขาก็ยังจะบินเข้าสู่กองไฟนั้นด้วยความยินดีและเต็มใจ
เพราะมิอาจต้านทานแรงปรารถนาต่อกัน

ตัวละครอย่างโอกิโมโตะนั้นเรามองว่าดูขัดแย้งกันเองในตัว
เป็นถึงทายาทมหาซามูไร ถูกเลี้ยงดูมาในวิถีนักรบ
หากแต่ขาดความหนักแน่น ยับยั้งชั่งใจ และความรับผิดชอบ
เมื่อมีความใคร่ และความรักก็ออกจะร้อนแรงเต็มไปด้วยไฟปรารถนา
แต่เมื่อถึงคราวที่ต้องปกครอง หรือปกป้องคนรักกลับไร้ซึ่งพลังอำนาจ
ยอมพ่ายต่อมารดา โดยไม่แม้แต่จะออกเสียงเพื่อแสดงอำนาจแห่งการเป็นนายเหนือหัว
แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่า ถูกเลี้ยงดูมาอย่างบำรุงบำเรอตามใจ
เพราะเป็นบุตรชายเพียงคนเดียวของมหาซามูไรผู้เรืองอำนาจ
และถูกปล่อยให้ลอยชายอยู่นาน ด้วยบารมีบิดายังคุ้มหัว
แถมด้วยมารดาผู้สามารถจัดการกิจการงานต่างๆ อยู่เบื้องหลัง
เขาจึงใช้ชีวิตสุขสบาย ไม่เคยต้องรับผิดชอบสิ่งใดจริงจัง
เมื่อสิ้นบิดาก็พบว่าอ่อนแอปวกเปียก ยืนด้วยลำแข้งตัวเองแทบไม่ได้
สร้างความทุข์ใจให้ทั้งบิดา มารดา ภรรยา และฟูซาโอะ

ตัวฟูซาโอะเอง กลับดูจะมีความเข้มแข็งมากกว่าอยู่นิดหน่อย
แต่จะเรียกว่าความเข้มแข็งก็ดูจะไม่เต็มปากนัก
เพราะความเข้มแข็งที่ว่าเหมือนจะมาเวลาเข้าตาจน เป็นความคับข้องใจ
หรือการก้มหน้ายอมรับสภาพมากกว่าล่ะมั้ง
แน่นอนว่าการตกหลุมรักครั้งแรก ความไร้เดียงสาของเขา
ความรักที่เป็นความลับ บวกกับความร้อนแรงเร้าอารมณ์ของเจ้านายหนุ่ม
ย่อมชักนำเขาให้ถลำลึกอย่างง่ายดายสู่ห้วงรักในมุมเร้น
แม้บิดา มารดา และเพื่อนแท้อย่างมิจิโอะจะพยายามเตือนให้ได้สติ
ฟูซาโอะก็ไม่อาจหักห้ามใจตัวเองได้ และไม่นานเขาก็ได้รู้ผลของการดื้อดึง

ตัวละครอีกตัวที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ ก็คือมิจิโอะ เพื่อนบ่าวรับใช้ในปราสาทของฟูซาโอะ
ท่ามกลางความทุกข์ตรมในความรัก และครอบครัว
ฟูซาโอะนั้นยังนับว่าโชคดีอยู่มากที่เจอเพื่อนที่ดี และยอมรับในสิ่งที่เขาเป็นอย่างมิจิโอะคนนี้
มิจิโอะนั้นพอจะรับรู้และเดาเอาได้ถึงความสัมพันธ์ของฟูซาโอะ และเจ้านายน้อย
แต่เขาไม่เคยตัดสินพิพากษาว่าฟูซาโอะเลย
แถมยังทำหน้าที่เพื่อนที่ดี ด้วยการตักเตือน และมอบไมตรีจิตให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
เขามองความรักของทั้งสองด้วยความเข้าใจ ว่าแค่แตกต่างเท่านั้นเอง

"ฉันเดาเอาว่าสังคมของเรายังไม่พร้อมที่จะยอมรับ
แต่ในสายตาของฉัน
ความรักของแกไม่ได้ด้อยไปกว่าฉันกับยูกิ
...แค่แตกต่างกัน"
- ฟูซาโอะ
(Rei Kimura, ซามูไรสีม่วง, สนพ. กำมะหยี่)

ถ้ามหาซามูไรโนบุนางะจะปล่อยชาวนาให้อยู่ตามวิถี
ถ้าโอกิโมโตะจะหนักแน่นกว่านี้ ไม่เข้ามายุ่งกับฟูซาโอะ
ถ้าเพียงแค่ฟูซาโอะเขียนหนังสือไม่เป็น
เรื่องราวน่าเศร้าหลายอย่างหลังจากนั้นคงไม่เกิด...

นอกจากอรรถรสของเนื้อหา ซามูไรสีม่วงยังสอดแทรกเกล็ดประวัติศาสตร์
ความคิดความเชื่อ และขนบธรรมเนียมญี่ปุ่น
ผูกโยงข้ามยุคสมัยจากยุคอดีต มายังปัจจุบันที่มายูมิกำลังสืบ
แปลถอดความจากม้วนกระดาษโบราณ
บางสิ่งบางอย่างก็ไม่ได้เปลียนไปมากนักแม้จะผ่านมานานหลายร้อยปี
ก็ได้แต่หวังว่า คนเราจะเปิดใจกว้างขึ้นเรื่อยๆ
พยายามเข้าใจ และยอมรับความแตกต่างระหว่างกัน
คนเราแต่ละคนมีความชอบแตกต่างกันไป ตั้งแต่เรื่องพื้นฐานอย่างอาหาร สีสัน ฯลฯ
ดังนั้นการที่รสนิยมทางเพศจะมีแตกต่างออกไปจากวิถีธรรมชาติบ้าง
มันก็ไม่ควรจะเป็นเรื่องที่ต้องตั้งแง่รังเกียจ หรือเป็นเรื่องวิปริต
หวังว่าสักวันเราจะยอมรับกันและกัน ให้เกียรติในความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน
ไม่ต้องมานั่งเรียกร้องความเท่าเทียมกันด้วยเรื่องเพศสภาพอีกต่อไป







Comments

Popular posts from this blog

[Spoiler Alert] เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) สปอยล์แหลกตามคำขอของน้อง

เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) หนังสือดีๆ อีกเล่มที่อยากแนะนำให้อ่าน

ลำนำรักเทพสวรรค์ ภาค หนึ่งคำมั่น สัญญานิรันดร์ (Promise Me a Forever)