แผนเลือดลวง (The Drop) ชุดนักสืบแฮร์รี่ บอช

“แต่บางครั้งเราก็ต้องหลงทาง
เพื่อจะได้รู้ว่าทางที่ถูกคือทางไหนนะคะ”
(ไมเคิล คอนเนลลี่, 'แผนเลือดลวง (The Drop)')


"แผนเลือดลวง (The Drop)"
ผู้เขียน: ไมเคิล คอนเนลลี่
ผู้แปล: โสภณา เชาว์วิวัฒน์กุล
แพรวสนพ., พิมพ์ครั้งที่ 1, กันยายน 2556

นอกจากฮาร์ลาน โคเบนแล้ว
ไมเคิล คอนเนลลี่ก็เป็นนักเขียนแนวสืบสวนสอบสวนอีกคนหนึ่งที่ชื่นชอบ
ตัวเอกในงานของไมเคิล คอนเนลลี่จะเป็นคนในวงการกฎหมาย
และมีวิธีการเดินเรื่องที่จริงจัง เป็นกระบวนการขั้นตอนทางกฏหมายมากกว่า
แต่ความสนุก ตื่นเต้นในการเดินเรื่อง ผูกปม
และพลิกล็อกล่อหลอกคนอ่านนั้นจัดได้ว่าคมไม่ต่างกัน
หนังสือของไมเคิล คอนเนลลี่ยังเคยถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ด้วย
อย่าง Blood Work (2002) ดับชีพจรล่านรก เรื่องนี้ปู่คลินท์ อีสต์วู้ดเป็นพระเอก


Blood Work ตีพิมพ์ในเวอร์ชั่นภาษาไทยภายใต้ชื่อ "ภารกิจเลือด"
โดยแพรวสนพ.

แล้วก็ The Lincoln Lawyer (2011) หรือชื่อไทยว่าพลิกเล่ห์ ซ่อนระทึก
ที่แมธทิว แมคคอนนาเฮย์รับบทนำ


สำหรับเวอร์ชั่นหนังสือ The Lincoln Lawyer ใช้ชื่อภาษาไทยว่า แผนพิพากษา
จัดพิมพ์โดยแพรวสนพ.



แผนเลือดลวง (The Drop) เป็น 1 ในชุดนักสืบแฮร์รี่ บอช (A Harry Bosch Novel)
เจ้าหน้าที่สืบสวนมากฝีมือ ที่เอ่อ...อายุอานามก็มากอยู่
(ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมในนิยายสืบสวนพระเอกมักจะแก่)
แต่ความแก่ไม่ได้เป็นอุปสรรคของความเก๋านะจ๊ะ
ในแผนเลือดลวง บอชต้องเจอกับคดีปริศนาระดับหิน ถึงสองงานในเวลาเดียวกัน
เขาได้รับมอบคดีเก่าที่ยังปิดไม่ได้มานาน 22 ปี
เด็กสาวคนหนึ่งถูกข่มขืน แล้วฆ่ารัดคอ ฆาตกรทิ้งศพไว้บนโขดหิน
เวลาผ่านไป 22 ปี ฆาตกรยังลอยนวล
เบาะแสเดียวที่มีคือ DNA จากเลือดที่ติดอยู่บนคอของศพ
ผลตรวจ DNA ระบุว่าเลือดนั้นเป็นของเคลย์ตัน เพลล์
นักโทษคดีทางเพศชื่อดัง ทุกอย่างเหมือนจะลงล็อกชี้ตัวไปที่เพลล์
แต่ปีที่เด็กสาวคนนั้นถูกฆาตกรรม เพลล์เพิ่งจะ 8 ขวบ!
เป็นไปได้อย่างไรที่เลือดของเด็กแปดขวบไปอยู่บนคอของศพ
เพลล์เกี่ยวข้องยังไงกับฆาตกรหรือเหตุการณ์นั้น บอชต้องรีบไขให้กระจ่าง
เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดของขั้นตอนส่งหลักฐาน
และเพื่อลากตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้
แต่ยังไม่ทันจะได้เริ่มสักเท่าไร บอชก็ถูกเบื้องบนเรียกตัวให้ไปทำอีกคดี
ซึ่งเร่งด่วนกว่า ลูกชายของนักการเมืองที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับกรมตำรวจ
และนับได้ว่าเป็นศัตรูของบอชด้วย ถูกพบเป็นศพอยู่บนทางเดินหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง
ตำรวจสรุปว่าเขากระโดดลงมาเพื่อฆ่าตัวตาย
แต่เออร์วิน เออร์วิงพ่อของผู้ตายไม่เชื่อ และระบุว่าต้องการให้บอชเป็นคนทำคดี
นอกจากจะไม่เข้าใจเจตนาของศัตรูที่เจาะจงเลือกเขา
บอชยังต้องเผชิญกับเล่ห์กลทางการเมืองที่เบื้องบนเล่นกันอีก

ในเล่มนี้ไม่ค่อยมีฉากแอคชั่น ไล่ยิงโป้งป้างเท่าไร
แต่ก็สนุก และลุ้นไปกับไขคดี การวิเคราะห์พยานหลักฐาน
คาดเดายาก และพลิกล็อกตื่นเต้น
ขนาดถึงจุดที่คิดว่าจบแล้ว ก็ยังมีพลิกล็อกได้อีก

การนำสองคดีมาเป็นโจทย์เล่มนี้ทำให้เห็นชัดเจนถึงการเล่นแง่การเมืองของท่านๆ
และการเพิกเฉยต่อคดีที่เหยื่อเป็นบุคคลธรรมดา
ในขณะที่กรณีของลูกชายนักการเมืองดังถูกผลักดันขึ้นมาให้เป็นคดีเร่งด่วนและสำคัญที่สุด
คดีที่เด็กสาวถูกฆ่า และปิดคดีไม่ได้กว่า 20 ปีถูกผลักออกไปให้ด้อยความสำคัญกว่า
ตัวอย่างง่ายๆ ก็ที่เราเห็นๆ กันในสังคมทุกวันนี้
คดีไหนเป็นที่สนใจของสื่อ เกี่ยวข้องกับคนดังคนสำคัญของสังคม 
หรือเป็นกระแสใน social network
คดีนั้นมักจะมีความคืบหน้า ปิดคดีได้ไวกว่าคดีที่ไม่มีคนสนใจ

ผลจากการที่ไม่มีใครเอะใจต่อคำให้การถึงปูมหลังของเคลย์ตัน เพลล์
ผู้บริสุทธิ์จำนวนมากกลายเป็นเหยื่อ ถูกทารุณและฆ่าอย่างเหี้ยมโหด
หวังว่าเรื่องแบบนี้จะจำกัดวงเหลืออยู่แค่ในนิยาย
ไม่เกิดขึ้นในชีวิตจริงของใครอีก



Comments

Popular posts from this blog

[Spoiler Alert] เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) สปอยล์แหลกตามคำขอของน้อง

เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) หนังสือดีๆ อีกเล่มที่อยากแนะนำให้อ่าน

ลำนำรักเทพสวรรค์ ภาค หนึ่งคำมั่น สัญญานิรันดร์ (Promise Me a Forever)