นารีนครา (她的城) - ฉือลี่ (池莉)

นารีนครา (她的城)


ชื่อเรื่อง: นารีนครา (她的城)
ผู้เขียน: ฉือลี่ (池莉) 
พระราชนิพนธ์แปล สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
สนพ. นานมีบุ๊คส์

นารีนครา (她的城) อีกหนึ่งผลงานพระราชนิพนธ์แปลของสมเด็จพระเทพฯ
เป็นนิยายขนาดสั้น บอกเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครหญิง 3 คน 3 รุ่น
แม่สามีของมี่เจี่ย มี่เจี่ย และเฝิงชุน
ฉากของเรื่องคือเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย
ในเล่มมีภาพประกอบสีสันสวยงาม ช่วยให้เห็นภาพบรรยากาศของเมืองด้วย

จู่ๆ เฝิงชุนก็เข้ามาของานทำในร้านขัดรองเท้าของมี่เจี่ย
มี่เจี่ยมองออกว่าเฝิงชุนต้องการประชด เรียกร้องความสนใจจากสามี
แม้ใจจริงจะลังเลอยู่บ้าง แต่ด้วยความที่รู้จักเห็นกันมานาน เป็นเพื่อนบ้านกัน
จะไม่ช่วยเหลือกันก็กระไรอยู่ ประกอบกับเฝิงชุนเป็นคนดี
มี่เจี่ยจึงยอมรับเฝิงชุนให้เข้ามาทำงาน
เฝิงชุนเป็นสาวสมัยใหม่ เพิ่งมีลูกแค่คนเดียว ก็มามีปัญหากับสามี
มาทำงานขัดรองเท้าก็หวังให้สามีมาตามกลับ แต่เขาก็ไม่มา
ทำไปทำมา ก็เริ่มคุ้นเคย และทำอยู่นานหลายเดือน
จนกระทั่งวันหนึ่งเกิดเรื่องหนึ่งขึ้น ซึ่งมี่เจี่ยมองว่าไม่งาม
และออกปากให้เฝิงชุนออกจากงาน

ผู้หญิงสามคน สามรุ่นนี้ เป็นตัวแทนของหญิงแกร่ง
ที่พาตนผ่านพ้นช่วงวิกฤติของชีวิตได้ด้วยลำแข้งของตัวเอง
ในยุคสมัย และสังคมที่ยกย่องเพศชายเหนือกว่าเพศหญิง
การที่ผู้หญิงจะเอาตัวรอดได้โดยลำพังนั้นน่าจะยากยิ่ง
มิตรภาพและน้ำใจ ที่ทั้งสามส่งผ่านถึงกันนั้นก็ไม่ธรรมดา
แม่สามี แม้จะรู้ว่ามี่เจี่ยทำผิดต่อลูกชายตน ก็ไม่ป่าวร้องให้มี่เจี่ยได้อาย
ผู้อาวุโสกลับมีเมตตา และน้ำใจให้มี่เจี่ยอย่างเหลือคณา

ตัวมี่เจี่ย เปิดเผย โผงผาง จริงใจ
หลังจากสามีเสียชีวิต ก็ดูแลแม่สามี และลูกชายเพียงลำพัง ไม่แต่งงานใหม่
เมื่อแรกไม่เข้าใจเฝิงชุนก็ให้ความช่วยเหลือ ให้งานทำ
ปฏิบัติต่อเฝิงชุนประหนึ่งนางเป็นคนในครอบครัว
และเมื่อเข้าใจถึงปัญหาของเฝิงชุน ก็ยิ่งจัดการช่วยเหลือ
และมอบมิตรภาพอันดีให้ ช่วยให้เฝิงชุนก้าวผ่านปัญหา

เฝิงชุนเองก็เป็นตัวแทนสาวสมัยใหม่ ที่รู้จักคิด
แม้ปัญหาที่เกิดขึ้นตัวจะไม่ผิด แต่ก็ยังเก็บงำไว้
ไม่เอาเรื่องในครอบครัวออกมาป่าวประกาศ ประจานสามีให้ได้อาย
เธอยังคงมีน้ำใจต่อเขา นี่แสดงถึงจิตใจอันดี มีน้ำใจของเฝิงชุน
แม้จะยังมีความคิด หรืออารมณ์ตามประสาผู้เยาว์อ่อนประสบการณ์อยู่บ้าง
แต่เฝิงชุนก็ให้ความเคารพแม่สามีของมี่เจี่ย และมี่เจี่ย
เมื่อได้รับฟังเรื่องราว คำอธิบายตักเตือนก็เข้าใจ และรับฟัง

เป็นนิยายที่เรื่องราวเรียบง่าย ไม่หวือหวา แต่ "ดี"
และอยากแนะนำให้อ่าน จะได้เห็นพระอัจฉริยภาพทางภาษาจีนของสมเด็จพระเทพฯ
ผ่านพระราชนิพนธ์แปลเรื่องนี้
นอกจากเรื่องราวมิตรภาพ ความผูกพันของหญิงต่างวัยทั้งสาม
เรายังได้เรียนรู้วัฒนธรรมประเพณีของชาวจีน เมืองอู่ฮั่น
อย่างเช่น การที่ผู้คนให้ความสำคัญกับรองเท้า ไม่น้อยไปกว่าหน้าตา และเสื้อผ้า
เรียกได้ว่ารองเท้าเปรียบประดุจหน้าตาของผู้สวมใส่
ธุรกิจร้านขัดรองเท้าของมี่เจี่ย จึงเป็นธุรกิจที่ทำเงินพอตัว
แล้วยังการให้ความสำคัญกับอาหารการกิน
"การกินเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตมนุษย์"
ท้ายเล่มยังมีภาคผนวกแนะนำเมืองอู่ฮั่น และอาหารพื้นเมือง
พร้อมภาพประกอบ ที่เห็นแล้วน้ำลายสอ ทำเอาหิวเลยล่ะ

พระราชนิพนธ์แปลเรื่องอื่นที่เคยอ่าน:
หมู่บ้านเล็กตระกูลเป้า (小鲍庄)http://menalin.blogspot.com/2014/05/1960-1980.html



Comments

Popular posts from this blog

[Spoiler Alert] เจ้าชายน้อย (Le Petit Prince) สปอยล์แหลกตามคำขอของน้อง

มี บีฟอร์ ยู

จอมนางคู่บัลลังก์ - ศึกรบ ศึกรักระหว่างกุนซือหญิงลือนามกับอ๋องนักรบมากความสามารถแห่งแคว้นศัตรู